แต่ไหนแต่ไรมา ผู้คนต่างกล่าวขวัญชื่นชมเมืองหย่งโจวของมณฑลหูหนานมากมาย มีคนเรียกว่า "เซียวเซียงที่งดงาม" บางคนก็เรียกว่า "เซียวเซียงที่เต็มไปด้วยบทกวี" โอวหยาง ซิว บรมครูทางวรรณคดีผู้ยิ่งใหญ่เคยกล่าวว่า "จากวาดภาพได้รู้จักเขตหลิงหลิง ถึงวันนี้จึงรู้ว่าภาพไม่อาจเปรียบของจริง" ลู่ โหยว กวีผู้ยิ่งใหญ่เคยชมว่า "หากจะประพันธ์ต้องมีภูเขาและสายน้ำมาช่วย ถ้าไปไม่ถึงเซียวเซียง ไฉนเลยจะมีบทกวี"
วัฒนธรรมเป็นจิตวิญญาณของเมือง และเป็นสิ่งที่มีมนต์เสน่ห์อย่างแท้จริง เหตุผลที่เมืองหย่งโจวได้รับการชื่นชมอย่างมาก ก็เนื่องจากมีการสั่งสมทางวัฒนธรรมด้านประวัติศาสตร์มาช้านาน เมื่อพิจารณาเมืองหย่งโจวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาจจะสรุปได้ว่า วัฒนธรรมด้านประวัติศาสตร์โดยหลักจะมี 4 ประการ
ประการแรก ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เมื่อปลายยุคหินเก่าจนถึงต้นยุคหินใหม่ ภายในเมืองหย่งโจวก็มีร่องรอยของกิจกรรมของมนุษยชาติปรากฏให้เห็น โดยนักโบราณคดีได้ขุดพบข้าวเปลือกที่มีอายุกว่า 12,000 ปีที่แล้ว และเศษเครื่องปั้นดินเผาอายุกว่า 14,000 ปีที่แล้ว ซึ่งแสดงว่า เมืองหย่งโจวเป็นพื้นที่ที่เข้าสู่ยุคเกษตรกรรมและการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่เร็วที่สุดของจีน อีกทั้งเป็นแหล่งกำเนิดข้าวนาดำของโลก ในปลายยุคสังคมดั้งเดิม พระเจ้าซุ่นตี้ ผู้ก่อตั้งวัฒนธรรมและศีลธรรมชนชาติจีนได้เสด็จไปภาคใต้ แต่ภายหลังเสด็จสวรรคตโดยพระศพฝังอยู่ในภูเขาจิ่วอี๋ที่เมืองหย่งโจว ตั้งแต่นั้นมา ภูเขาจิ่วอี๋กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการเซ่นไหว้บูชาพระเจ้าซุ่นตี้ ศีลธรรมและวัฒนธรรมของพระเจ้าซุ่นตี้ได้ฝังรากลึกในพื้นที่หย่งโจว ทั้งยังมีอิทธิพลอย่างมากและลึกซึ้งยาวไกลต่อการพัฒนาของเมืองหย่งโจวในเวลาต่อมา
ประการที่ 2 วัฒนธรรมที่รุ่งโรจน์ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและน่าชื่นชมของเมืองหย่งโจว ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน เมืองหย่งโจวก็เป็นแหล่งชุมชนด้านวัฒนธรรม หลังการพัฒนาในระยะยาว ที่นี่มีวรรณคดีโบราณที่มีตัวแทนคือกวีหยวน เจี๋ย และหลิ่ว จงหยวน มีการเขียนอักษรศิลป์จีนโบราณที่มีตัวแทนคือศิลปินหวาย ซู่ และเหอ เส้าจี มีปรัชญาสมัยโบราณที่มีนักปราชญ์โจว ตุนอี๋เป็นตัวแทน มีการแกะสลักศิลาจารึกโบราณที่มีตัวแทน คือ อู๋ซีในฉีหยาง และหินหยางหวาในเจียงหวา มีงิ้วโบราณที่มีตัวแทนคืองิ้วฉี เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอัญมณีในคลังวัฒนธรรมของชนชาติจีน และมีสถานะสำคัญในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมจีน เมืองหย่งโจวเป็นแหล่งชุมชนของชนเผ่าเหยา โดยอำเภอเจียงหวาของเมืองหย่งโจวเป็นอำเภอปกครองตนเองที่มีชาวเหยาพำนักอยู่มากที่สุดของจีน ส่วนเชียนเจียต้งในอำเภอเจียงหย่งก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นจิตวิญญาณของชาวเหยา วัฒนธรรมชนเผ่าเหยาที่หลากหลายและงดงามดั่งดอกไม้มหัศจรรย์ในคลังวัฒนธรรมชนชาติจีน นำความสวยงามมาสู่ผู้คน นอกจากนี้ เมืองหย่งโจวยังมีวัฒนธรรมที่แปลกมหัศจรรย์หลายอย่าง เช่น หนังสือสตรีเจียงหย่ง ซึ่งเป็นระบบลายลักษณ์อักษรสำหรับการเรียนรู้ ประยุกต์ใช้และสืบทอดสำหรับสตรีเท่านั้น เป็นลายลักษณ์อักษรสตรีเพียงอย่างเดียวที่ยังสืบทอดอยู่ในโลกปัจจุบัน ส่วนที่มาและการสืบทอดของตัวหนังสือดังกล่าว ยังเป็นปริศนาถึงทุกวันนี้
ประการที่ 3 มีผู้มีชื่อเสียงมากมาย เมืองหย่งโจวเป็นสถานที่ดีและเป็นแหล่งกำเนิดบุคคลยอดเยี่ยมมาตั้งแต่โบราณ สมัยสามก๊ก แม่ทัพตงอู๋ อุยกาย ชาวหลิงหลิงใช้แผนทรมานร่างกายตัวเองและยุทธศาสตร์โจมตีด้วยไฟ จนได้ชัยชนะทหารโจโฉที่ฉื้อปี้ สร้างคุณูปการที่ใหญ่หลวงจนมีสำนวนว่า "จิวยี่ตีอุยกาย คนหนึ่งอยากตี คนหนึ่งยอมถูกตี" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป นักเขียนหวย ซู่ ที่ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์ถัง ผู้ซึ่งมีลายมือภาษาจีนแบบตัวหวัด เขาเกิดที่เมืองหลิงหลิงและบวชที่นั่น และศิลปินเหอ เส้าจี นักเขียนอักษรศิลป์จีนสมัยปลายราชวงศ์ชิงเกิดที่เมืองเต้าโจว ทั้งสองล้วนมีสถานะและบทบาทที่สำคัญในประวัติศาสตร์พู่กันจีน นักเขียนโจว ตุนอี๋ที่เกิดในเมืองเต้าโจวในสมัยราชวงศ์ซ่ง วัยเยาว์ได้เรียนรู้วิปัสสนาที่หินเยว่เหยียนเมืองเต้าโจว ภายหลังได้ประพันธ์หนังสือแผนภาพไทเก็ก และหนังสือทงซู จนกลายเป็นปฐมอาจารย์ทฤษฎีซ่ง ซึ่งทฤษฎีของเขาหลังจากได้รับการปรับปรุงจากนายเฉิง อี๋ และนายเฉิง เฮ่า จนถึงนายจู ซี ให้เป็นระบบที่สมบูรณ์ ได้กลายเป็นตำราแนวทางการบริหารของราชวงศ์จีนทุกสมัย ที่ยอดเยี่ยมและสืบทอดมากว่า 800 ปี จนถึงสมัยปัจจุบัน เมืองหย่งโจวเป็นแหล่งกำเนิดของอัจฉริยะบุคคลอีกมากมาย
ประการที่ 4 มีทิวทัศน์สวยงาม เมืองหย่งโจวมีวิวธรรมชาติแบบดั้งเดิมที่ไร้มลพิษ มีเขตท่องเที่ยวมากมาย เช่น เขาจิ่วอี๋ เขาหยางหมิง และเขาสุ้นหวง แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดและเป็นที่ชื่นชอบที่สุดคือ สถานที่ท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมจำนวนมากมายที่กระจายทั่วหย่งโจว เช่น อู๋ซีในฉีหยาง และวัดหลิ่วจื่อในเขตหลิงหลิง นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ที่เป็นหน่วยงานอนุรักษ์โบราณวัตถุระดับชาติ เช่น หินเฉาหยางในหลิงหลิง และหินเยว่เหยียนในอำเภอเต้า เป็นต้น รวมทั้งหมด 27 แห่ง ซึ่งสถานที่เหล่านี้รวมทั้งหน่วยงานอนุรักษ์โบราณวัตถุระดับมณฑล ระดับเมืองและระดับอำเภอ ได้รวมตัวขึ้นเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมจำนวนมากที่หลากหลายและลึกซึ้ง
ตั้งแต่การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นต้นมา โดยเฉพาะภายหลังการปฏิรูปและเปิดประเทศ เมืองหย่งโจวของมณฑลหูหนานเข้าสู่คันเร่งของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะการสร้างเมืองและการพัฒนาการคมนาคมอย่างรวดเร็ว เขตหลิงหลิงในเมืองเก่าหย่งโจวมีความเรียบง่ายแต่สง่างาม เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสมือนไข่มุกที่เงางาม ฝังตัวในพื้นปฐพีเซียวเซียง และโผล่ขึ้น ณ จุดเชื่อมต่อของมณฑลหูหนาน กวางตุ้งและกวางสี โฉมหน้าการคมนาคมของเมืองหย่งโจวได้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก สนามบินหย่งโจว อีกทั้งทางรถไฟเซียงกุ้ย ลั่วจั้น และกุ้ยฝู ทางด่วนเหิงคุน เอ้อร์กว่าง หย่งเฮ่อ และเซี่ยหรง รวมทั้งทางหลวงหลายเลข 207 และ 322 ตลอดจนเส้นทางต่างๆ ระหว่างมณฑลกับมณฑล อำเภอกับอำเภอ หมู่บ้านกับหมู่บ้าน เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายคมนาคมสามมิติ ด้วยความพร้อมในทุกด้าน รัฐบาลและประชาชนเมืองหย่งโจวมีความยินดีต้อนรับบุคคลทั่วโลกมาท่องเที่ยว พักผ่อนและลงทุน แน่นอน เมืองหย่งโจวย่อมจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของท่าน
(NL/Ping)