วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นวันลดภัยพิบัติสากลและเป็นวันจัดการภัยพิบัติ คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติหรือเอสแคบกับสำนักงานเลขาธิการของอาเซียนร่วมกันจัดกิจกรรมรำลึกที่กรุงเทพฯ เพื่อรณรงค์ให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มความสามารถในการรับมือกับภัยพิบัตของเมือง และให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยพิบัติล่วงหน้า เพื่อลดความเสียหายด้านทรัพย์สินและชีวิตจากภัยพิบัติ
ในนอกสถานที่จัดการประชุม มีการแสดงภาพวาดของเด็กจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ที่เข้าร่วมประชุมวันลดภัยพิบัติครั้งนี้นอกจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงแล้ว ยังมีเด็กกว่า 10 คนเข้าร่วม ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากการประชุมสัมนาอื่นๆ นางโนลีน เฮย์เซอร์ รองเลขาธิการปฏิบัติการของสหประชาชาติ และในตำแหน่งเลขาธิการบริหารของเอสแคบกล่าวคำปราศรัยว่า
การลดความเสี่ยงของภัยพิบัติหมายความถึงการช่วยชีวิตประชาชน เพราะภัยพิบัติจะทำลายผลงานด้านสุขอนามัย การศึกษาและการลดปัญหาความยากจน ถึงปี 2030 ประชากรส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้จะอาศัยอยู่ในเมือง เราหวังว่าไม่เพียงแต่ได้รับผลคืบหน้าในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในเมืองเท่านั้น หากยังสามารถแสดงบทบาทสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและวิกฤตอื่นๆ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการเติบโตด้วย
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนกล่าวคำปราศรัยว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบภัยพิบัติบ่อยครั้ง หลายปีมานี้ ประชาชนต่างดำเนินการป้องกันภัยพิบัติ แต่ยังมีภัยพิบัติขนาดร้ายแรงที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขากล่าวว่า
อาเซียนให้คำมั่นสัญญาว่าโดยผ่านการลดปัญหาความยากจนและลดภัยพิบัติจะทำให้บรรลุถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเพิ่มพูนความผาสุกให้แก่ประชากร 600 ล้านคนของภูมิภาคนี้ เราตระหนักว่า การลดปัญหาความยากจนและลดภัยพิบัติเป็นสองด้านที่เกี่ยวข้องกัน
วันเดียวกัน ในกิจกรรมรำลึกการลดภัยพิบัติยังมีการมอบรางวัลการประกวดวาดภาพและการเขียนเรียงความเกี่ยวกับการลดภัยพิบัติของอาเซียน โยว โยว เด็กหญิงจากบรูไน อายุ 9 ขวบ ได้รับรางวัลที่ 1 ในการวาดภาพเกี่ยวกับการลดภัยพิบัติ เธอกล่าวว่า
ภาพวาดของหนูคือ ตรงกลางของภาพเป็นตำรวจ ตำรวจดับเพลิงและคุณหมอ เพราะว่า หลังเกิดภัยพิบัติ พวกเขาเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด ภาพของหนูเน้นให้เห็นว่าโดยผ่านการเพิ่มความรู้และตระหนักในการป้องกันภัยพิบัติในเมืองให้กับประชาชน เมืองในประเทศอาเซียนจะปลอดภัย และไม่ต้องหวาดกลัวกับภัยพิบัติ
nl/qi/kt