ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ นายพงศ์อนันต์ สรรพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานองค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภาคภาษาไทย สถานีวิทยุซีอาร์ไอเกี่ยวกับประเด็นการไปมาหาสู่กันทางการท่องเที่ยวระหว่างจีนกับไทย รายละัเอียดของการสัมภาษณ์มีดังนี้
ถาม ขอให้ืท่านช่วยสรุปภาพรวมด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีนในปี 2010
ตอบ ผมเพิ่มมาถึงเมืองจีนประมาณ 3 เดือน โดยภาพรวมที่ได้ศึกษามา รู้สึกว่า ปีหนึ่ง คนจีนนิยมเดินทางออกไปนอกประเทศพอสมควร จากสถิติของทางเมืองจีน ชาวจีนก็ไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวจีนที่ไปเมืองไทยนั้น ปีหนึ่งก็เยอะ เมื่อปีที่แล้ว ก็คิดว่าประมาณ 600,000-700,000 ปีนี้จะเยอะขึ้น เท่าที่ดูตัวเลข ก็เป็นเรื่องปกติที่ว่า เรื่องการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตของทุกคน ขณะเดียวกัน เป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน คนไทยมาเยือนจีนก็มากทีเดียว
ถาม ท่านมองศักยภาพด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีนอย่างไร จีนมี ความสำคัญมากน้อยเพียงไรต่อตลาดท่องเที่ยวของไทย และไทยวางเป้าหมายไว้อย่างไรครับ
ตอบ สำคัญมากทีเดียวสำหรับตลาดจีนกับประเทศไทย ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้่างใหญ่ ประชาชนมาก ในขณะเดียวกัน จีนกำลังพัฒนาตัวเองเพื่อให้เป็นมหาอำนาจประเทศหนึ่งในโลก ไม่ว่าจะเ็ป็นทางด้านเศรษฐกิจ ด้่านอุตสาหกรรม หรือด้านการเกษตรและอื่นๆ และก็พัฒนาได้ค่อนข้างรวดเร็ว กลายเป็นประเทศเจริญมากเทียบเท่าประเทศตะวันตก ทำให้ประชาชนมีรายได้ต่อหัวต่อปีเยอะพอที่จะสามารถจับจ่ายใช้สอยนอกประเทศได้ ในประเทศจีนจะสังเกตได้ว่า ในทุกแหล่งโบราณสถานหรือทุแหล่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว คนจีนกันเองก็เที่ยวกันเยอะมาก แน่นขนัดไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจสำหรับประเทศจีนที่ว่า ชาวจีนได้ท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะัเดียวกัน ก็เิดินทางออกนอกประเทศด้วย ทำอย่างไรจึงจะทำให้ผู้ที่เดินทางออกนอกประเทศไปประเทศเราบ้าง ให้ได้จำนวนที่มากๆ หน่อย เพราะฉะนั้น ผมจึงมองว่า ประเทศจีนมีความสำคัญมากต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย และเราก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า สิ้นปี 2010 เราน่าจะได้คนจีนไปเที่ยวเมืองไทยสักล้านคน ปีก่อนๆ ยังไม่ถึง เราจะพยายามพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น และพาชาวจีนไปท่องเที่ยว จึงได้ตั้งเป้าหมายต่อไปว่า ในปี 2011 เราตั้งเป้าให้เพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 10 เปอร์เซน