การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ณ เมืองแคนคูนผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว โดยวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมาเป็นวันพักประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของประเทศต่างๆ จะทยอยกันเดินทางถึงเมืองแคนคูน และเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา หน่วยงานของ "อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ได้จัดทำเอกสารประธานฉบับหนึ่งเรียบร้อยแล้ว แต่ฝ่ายต่างๆ ยังไม่มีความเห็นพ้องต้องกันต่อเอกสารดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้แทนทั่วไปคัดค้านญี่ปุ่นที่ประกาศจะละทิ้ง "พิธีสารเกียวโต" ในขณะที่ฝ่ายจีนยืนหยัดจะต้องปฏิบัติตาม "พิธีสารเกียวโต" ต่อไปซึ่งเป็นหลักการที่อ่อนข้อไม่ได้เด็ดขาด

หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายต่างๆ ได้ดำเนินการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม"อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" และ "พิธีสารเกียวโต" อย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง บ่ายวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการจัดประชุมเต็มคณะ โดยนางแพทริเซีย เอสพิโนซา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกฝยฐานะประธานการประชุมกล่าวเน้นในที่ประชุมว่า ที่มีข่าวลือว่าเม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพเตรียม "เอกสารลับ" ฉบับหนึ่งนั้นเป็นข่าวลือที่ไร้หลักฐาน การประชุมแคนคูนจัดขึ้นอย่างเปิดเผยโปร่งใสเต็มที่ ไม่มีเอกสารลับ และไม่มีสถานที่และการประชุมลับด้วย เธอกล่าวว่า หน่วยงานของ "อนุสัญญาฯ"ได้ออกเอกสารประธานฉบับหนึ่งแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นพื้นฐานของการเจรจา เพียงแต่เป็นบันทึกทัศนะของฝ่ายต่างๆ ที่ขัดแย้งกันมาก และในบันทึกได้แสดงความเห็นของประธานที่เกี่ยวกับฝ่ายต่างๆ ว่าได้ผลคืบหน้าในปัญหาอะไรบ้าง และยังมีข้อขัดแย้งในปัญหาใด ตลอดจนควรใช้ความพยายามในทิศทางไหน

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา นายซูเหว่ย รองหัวหน้าคณะผู้แทนจีนที่เข้าร่วมการประชุมแคนคูน ในฐานะหัวหน้าตัวแทนฝ่ายจีนในการเจรจาเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในปัญหาเล็ก และปัญหาที่ไม่ใช่เชิงหลักการ ฝ่ายต่างๆ ควรมีท่าทีรอมชอมและร่วมมือกัน แต่ในปัญหาหลักการ จะอ่อนข้อไม่ได้เด็ดขาด อย่างเช่นจะต้องปฏิบัติตาม "พิธีสารเกียวโต" ก็เป็นปัญหาหลักการที่จะเพิกเฉยไม่ได้ นายซูเหว่ยชี้ว่า ปัจจุบัน นอกจากประเทศจำนวนน้อยนิดที่คัดค้าน "พิธีสารเกียวโต" อย่างชัดเจนแล้ว ประเทศส่วนใหญ่โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนามีจุดยืนตรงกันคือยืนหยัดใน "พิธีสารเกียวโต" ต่อไป ฝ่ายจีนเห็นว่า ต้องมีดัชนีลดการปล่อยมลภาวะตามสัญญาระยะที่ 2 ของประเทศพัฒนา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการบรรลุซึ่งข้อตกลงเบ็ดเสร็จในที่ประชุมแคนคูน นายซูเหว่ยยังกล่าวว่า การเจรจาในที่ประชุมแคนคูนมีความยากลำบากมาก ขอแต่ฝ่ายต่างๆ มีความปรารถนาทางการเมืองอย่างแท้จริง ฝ่ายจีนก็มีความมั่นใจต่อที่ประชุมที่จะประสบผลในทางบวกอย่างมีความหมาย และสามารถสะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยต่างๆ ของ "โรดแมป บาหลี" อย่างได้สมดุล แม้ว่าที่ประชุมแคนคูนจะแก้ไขปัญหาทั้งหมดไม่ได้ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีความคืบหน้าในปัญหาบางประการ และเป็นการปูพื้นฐานอันดีสำหรับการเจรจาขั้นต่อไป

NL/Lr