รศ.ดร.สมภพ  มานะรังสรรค์   อธิการบดีพีไอเอ็ม (PIM) กับมุมมองต่อประชากรผู้สูงอายุและเทคโนโลยีของจีน
  2011-03-06 17:38:11  cri

รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หรือ พีไอเอ็ม (PIM) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอเกี่ยวกับการประชุม "สองสภาฯ" ของจีน ซึ่งมีใจความดังต่อไปนี้

การประชุมสองสภา เป็นการประชุมประจำปี เวลาที่รัฐบาลมีนโยบายต่าง ๆ ออกมา ก็คงต้องได้รับการรับรองจากสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาผู้แทนประชาชน เพราะสภาปรึกษาการเมืองนั้นก็มีหน้าที่ให้ความเห็นต่าง ๆ แล้วก็นำไปสู่การปฎิบัติ ขณะนี้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของจีน เห็นได้ชัดเจนว่า ขณะนี้ จีดีพีของจีนขยายตัวมาก มีการขยายตัวเป็นตัวเลขสองหลักเป็นเวลาหลายปี ขณะเดียวกันก็มีปัญหาขยายผลพวงการพัฒนาไปสู่คนส่วนใหญ่ ทำให้เกิดช่องว่างในการกระจายรายได้ระหว่างคนกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะคนที่อยู่แถบชายฝั่งทะเลกับคนที่อยู่ทางมณฑลด้านใน ถ้าปล่อยให้ปัญหานี้ยืดเยื้อออกไป แม้จีนประสบผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจในเชิงปริมาณแต่ก็มีปัญหาในเชิงคุณภาพ และการมีปัญหาในเชิงคุณภาพก็อาจนำไปสู่ปัญหาในเชิงสังคม ปัญหาความไม่สงบต่าง ๆตามมาได้ ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าผู้นำของจีนเช่นนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าจึงได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าเป็น 1 ใน 7-8 เรื่องที่จีนต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

มุมมองต่อประชากรผู้สูงอายุ

อีกหลาย ๆ เรื่องที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จีนเผชิญปัญหาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อ ราคาที่อยู่อาศัยที่แพงขึ้นมาก และอีกหลาย ๆ เรื่อง แต่ผมคิดว่าเรื่องหนึ่งที่น่าจะเป็นปัญหาของจีนในอนาคตอันไม่ไกลนี้ ก็คือการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนที่มีอายุมากตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ปัจจุบันมีถึง 160 กว่าล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี ถึง 110 ล้านคน ประชากรผู้สูงอายุคิดเป็นสัดส่วนถึงถึง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ของประชากรประเทศ แล้วก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาฯฉบับที่ 12

(2011-2015) คนจีนที่มีอายุกว่า 60 ปี จะเพิ่มเป็น 210 ล้านคน มีสัดส่วน 16-17 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโดยรวม เมื่อเป็นเช่นนี้ในแผนพัฒนาฯที่จะดูแลคนกลุ่มนี้ ทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้ได้รับการเกื้อหนุนมากขึ้น เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งที่จะทำให้การพัฒนาของจีนมีความยั่งยืน มีการเกื้อกูลกันมากขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อการพัฒนาไม่เท่าเทียมกัน ยกตัวอย่าง เมื่อใหญ่ ๆ แถวชายฝั่งทะเลมีการพัฒนามากกว่า ก็เลยทำให้คนหนุ่มคนสาวจำนวนมากในชนบทอพยพเข้าไปอยู่ในตัวเมือง ก็ยิ่งสร้างปัญหาทำให้การดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวของตัวเอง มีความลำบากขึ้น จากตัวเลขผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปี มีถึง 110 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณ 33 ล้านคน เป็นกลุ่มคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือว่ามีภาวะของการเจ็บป่วย ที่ค้อนข้างจะเป็นปัญหา ขณะนี้ทั่วประเทศจีนบ้านพักคนชราที่จะมารองรับคนชราได้มีประมาณ 2 ล้านคน ในจำนวนผู้สูงวัย 33 ล้านคน ลูกหลานของเขามีความจำเป็นทางเศรษฐกิจต้องไปอยู่ไกลบ้าน นานทีปีหน เช่นตรุษจีน จึงสามารถกลับบ้านได้ คิดดูว่าปัญหาเหล่านี้จะดำรงอยู่มากมายขนาดไหน และจะเพิ่มมากขนาดไหนในอนาคต เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสนใจแต่เนิ่น ๆ เพราะถ้าพัฒนาเศรษฐกิจจนจีดีพีใหญ่โตมากมายเพราะขณะนี้ จีดีพีของจีนก็เป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว แต่ถ้าผลพวงจากการขยายตัวของจีดีพีไม่สามารถเจือจานคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกลุ่มซึ่งยากลำบากมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือคนกลุ่มที่มีอายุเกิน 60ปี ก็จะทำให้เกิดปัญหาสังคม และปัญหาสังคมอันนี้ ก็จะนำไปสู่ควาไม่สงบต่าง ๆ ตามมาได้

มุมมองต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน

ตอนนี้เทคโนโลยีจีนก้าวหน้าไปมาก สิ่งที่จีนต้องทำในการเป็นผู้นำของโลก โดยเฉพาะการที่จีนกลายเป็นประเทศที่มีจีดีพีมากเป็นอันดับ 2 ของโลก การจะทำให้เศรษฐกิจของจีนพัฒนาอย่างยั่งยืน ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างมั่นคง ฐานรากอย่างหนึ่งก็คือต้องมีเทคโนโลยีที่มั่นคงด้วย เพราะช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจีนได้ทุ่มพัฒนาด้านนี้ไปได้ระดับหนึ่ง การมุ่งทุ่มเทต่อไปเพื่อให้จีนเป็นประเทศที่มีการบุกเบิกเทคโนโลยีด้วยตนเอง ก็จะทำให้จีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องพัฒนาเศรษฐกิจแบบยืมจมูกคนอื่นหายใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีจำนวนมากของจีน มีการซื้อหามาจากต่างประเทศ การพัฒนาได้ด้วยตนเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ

พัฒนาอย่างไร? ต้องมีแผนที่ชัดเจน แน่นอน จีนต้องมียี่ห้อ มีแบรนด์เนมเป็นของตนเอง เพราะการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าต่าง ๆ ในตลาดโลก การมีตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมีความสำคัญ จีนต้องพยายามพัฒนาตนเองจากการเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิต คือผลิตด้วยแบรนด์เนมของคนอื่น ยี่ห้อของคนอื่น หรือผลิตด้วยเทคโนโลยีของคนอื่น มาเป็นผลิตด้วยเทคโนโลยีของตัวเอง ผลิตด้วยตราสินค้า ยี่ห้อสินค้าของตัวเอง ทำให้ผลพวงของการใช้หยาดเหงื่อของคนจีน สามารถที่จะตกเป็นของประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น เพราะจีนมีประชากรถึง 1,340 ล้านคน คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

1 2
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
时政
v จีนจะเน้นเพิ่มพูนความไว้วางใจทางการเมืองกับประเทศรอบข้างต่อไป 2011-03-07 15:56:39
v 5 ปีข้างหน้า จีนจะมีบทบาทมากขึ้นในการร่วมกันสร้างโลกที่มีสันติภาพถาวร เจริญร่วมกันและสมานฉันท์ 2011-03-07 14:35:59
v การจดบันทึกรูปแบบต่างๆ ของสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน 2011-03-07 13:49:54
v จีนกำลังพิจารณานโยบายลูกคนเดียว 2011-03-07 13:24:49
v ใครมีคําถามยกมือขึ้น 2011-03-07 13:22:45
v เลนส์ใครยาวกว่ากัน 2011-03-07 13:19:44
v บรรดาผู้สื่อข่าวที่วุ่นอยู่กับการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 11 ครั้งที่ 4 2011-03-07 13:17:03
v หู จิ่นเทาย้ำ ทิเบตต้องเดินหนทางการพัฒนาที่มีเอกลักษณ์ของจีนและมีลักษณะพิเศษของทิเบต 2011-03-07 13:07:43
v จีนมีความสามารถและมีเงื่อนไขพร้อมที่จะทำให้ราคาสินค้าทั่วไปคงที่ในขั้นพื้นฐาน 2011-03-07 13:06:57
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040