พระมหาเถระซื่อ หมิงเซิง อุปนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศจีนกับผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอ 9 มีนาคม 2554
สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า วันนี้ (9 มีนาคม) ที่สำนักงานซีอาร์ไอ พระมหาเถระซื่อ หมิงเซิง (释明生) อุปนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศจีน และในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซี่อาร์ไอเกี่ยวกับ "การประชุมสองสภาฯ" และประเด็นร้อนของ "การประชุมสองสภาฯ" โดยระบุว่า พุทธศาสนามีส่วนส่งเสริมให้สังคมมีความสมานฉันท์ ขอให้ทุกคนคิดดี พูดดี และทำดี ก็จะมีความสุขถ้วนหน้า
เกี่ยวกับประเด็น "การทำให้ประชาชนมีความสุข" นั้น พระมหาเถระซื่อ หมิงเซิง ได้เน้นย้ำว่า สังคมไม่อาจพัฒนาไปได้เพียงแค่อาศัยความเจริญทางวัตถุ การมีบ้านหลายๆ หลังไม่ได้เป็นตัววัดว่าคนจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้นกว่ามีบ้านเพียงหลังเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีดีพี ไม่ได้เป็นตัววัดความสุขของผู้คน เพราะความสุขอยู่ที่ใจ โดยเฉพาะใจที่สงบเย็น มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ละซึ่งโลภ โกรธ หลง โดยมีธรรมะเป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจ เช่นนี้แล้ว สังคมและประเทศชาติก็จะพัฒนาไปอย่างได้สมดุล มีความสงบ สันติ และผาสุกอย่างยั่งยืน
พระมหาเถระซื่อ หมิงเซิง เคยธรรมจาริกไปที่ประเทศศรีลังกา มาเลเซียและประเทศไทยเมื่อปี 2544 ในครั้งนั้น ท่านได้เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาขั้นสูงของคณะสงฆ์ ท่านรู้สึกประทับใจที่ศาสนาพุทธได้หยั่งรากลึกในประเทศไทย รวมทั้งการมีระบบการจัดการที่ดี ณ บริเวณสนามอันกว้างใหญ่ภายในมหาวิทยาลัย ผู้คนสามารถเข้าไปนั่งสมาธิ หรือมีกิจกรรมทางศาสนาได้หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้โดยทั่วไปในประเทศไทย
สำหรับชาวพุทธที่พำนักอยู่ในประเทศจีน โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้มหาอารามทั้ง 8 (八大处) ในกรุงปักกิ่ง อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ก็สามารถที่จะไปนมัสการ สวดมนต์เป็นภาษาของตนเอง และนั่งสมาธิได้
หัวใจของศาสนาพุทธมี 3 ประการคือ ทำดี ละชั่ว และทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
พระมหาเถระซื่อ หมิงเซิง อุปนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศจีนกับผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอ 9 มีนาคม 2554
(NL/Jiang/LING)