เฉินกวงเปียว "ผู้สังเกตการณ์ที่ได้รับเชิญให้เข้าฟัง 'การประชุมสองสภาฯ' "

ระหว่าง "การประชุมสองสภาฯ" มีผู้ร่วมสังเกตการณ์ในที่ประชุมรายหนึ่ง ที่ได้รับความสนใจจากสื่อหลายสำนัก เขาไม่ใช่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือสมาชิกสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ แต่เป็น "ผู้สังเกตการณ์ที่ได้รับเชิญให้เข้าฟัง 'การประชุมสองสภาฯ' " (全国两会特邀旁听者) ซึ่งเขาปรากฏตัวในที่ "ประชุมสองสภาฯ" ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 11 ปีแล้ว เขาคนนี้ก็คือ เฉินกวงเปียว (陈光标) ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น "นักบริจาคหมายเลข 1 ของจีน"

เฉินกวงเปียว (ที่ 3 จากซ้าย แถ้วหน้า) กับกิจการการกุศลของจีน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ล้วนควรทำเพื่อการกุศล

เฉินกวงเปียวเริ่มผันตัวเข้าสู่วงการบริจาคเงินเพื่อการกุศลตั้งแต่ปี 1996 จนถึงขณะนี้ เขาได้บริจาคเงินทองและสิ่งของให้แก่สังคมรวม 1,400 ล้านหยวน ช่วยผู้คนกว่า 500,000 คน

"เริ่มแรกที่ทำธุรกิจนั้น ผมนำร้อยละ 5 ของผลกำไรสุทธิออกมาเป็นเงินบริจาค จากนั้นก็เพิ่มสัดส่วนขึ้นมาเป็นร้อยละ 10 ร้อยละ 15 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปี 2010 มวลรวมการผลิตของผมเป็นเงินประมาณ 11,000 ล้านหยวน กำไรสุทธิ 450 ล้านหยวน ซึ่งนำไปบริจาคตั้ง 310 ล้านหยวน นับเป็นปีที่บริจาคเงินมากที่สุด"

"การที่ผมบริจาคเงินก้อนมหึมาขนาดนี้ใช่ว่าเพื่อโฆษณาผมคนเดียว ที่สำคัญเพื่อส่งผลกระทบและกระตุ้นผู้รวยมากกว่า ผมขอร้องว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ล้วนควรทำเพื่อการกุศล"

เฉินกวงเปียว ถีบจักรยานไปทำงาน

ประวัติส่วนตัว

เฉินกวงเปียวเกิดเดือนกรกฎาคม ปี 1968 เป็นชาวมณฑลเจียงซู เมื่อปี 2010 เขาประกาศว่า เขาจะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดหลังเสียชีวิต

เขาเกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจนในชนบท มีพี่น้องรวมทั้งหมด 5 คน ตอนเขาอายุ 2 ขวบ พี่ชายกับพี่สาวเสียชีวิตเนื่องจากอดอยากหิวโหย ซึ่งสร้างความหวาดกลัวในจิตใจของเขา นอกจากนี้ ระหว่างปี 1968-1978 เขาแทบไม่เคยรับประทานเนื้อสัตว์ และมีอาหารกินไม่เพียงพอ ทั้งนี้ทำให้เขาตระหนักว่า "ต้องเปลี่ยนชะตากรรมตัวเอง ต้องหลุดจากภาวะยากจนข้นแค้นและสร้างความร่ำรวย"

ปี 1978 เขาอายุ 10 ขวบก็เริ่มาขายเล็กๆ น้อยๆ คือ เจียดเวลาพักเที่ยงจากโรงเรียนไปหาบน้ำจากบ่อไปขายในตำบล ขายในราคา 1 เฟิน ซึ่งวันหนึ่งมีรายได้ 2-3 เหมา เวลาเปิดเทอมค่าหนังสือเพียง 1.8 หยวน เมื่อเขารู้ว่า เด็กเพื่อนบ้านไม่มีเงินชำระค่าหนังสือ เขาก็ช่วยออกเงินให้ นี่คือครั้งแรกที่เขาให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเขา ความสุขในใจหอมหวานกว่ากินน้ำผึ้งเป็นไหนๆ

ตอนอายุ 17 ปี เขามีรายได้ 20,000 หยวน กลายเป็น "หนุ่มผู้มีหมื่นหยวน" คนแรกในหมู่บ้าน เมื่ออายุ 28 เขาพัฒนาขึ้นมาเป็นเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทแห่งแรกในชีวิต

"ปัจจุบันผมมุ่งในกิจการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ทรัพยากรที่รีไซเคิลได้ และการกำจัดขยะที่เกิดจากการก่อสร้างและขยะในเมือง เพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและลูกหลาน"

เฉนกวงเปียว

เปลี่ยนชื่อทั้งครอบครัวเพื่อรณรงค์คาร์บอนต่ำ

เฉนกวงเปียวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ปี 2011 ว่า เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครอบครัวเขา 4 คนล้วนเปลี่ยนชื่อหมด "ผมเปลี่ยนชื่อว่า เฉินตีท่าน (เฉินคาร์บอนต่ำ) ภรรยาชื่อ จางลวี่เซ่อ (จางสีเขียว) ลูกชาย 2 คนชื่อ เฉินหวนเป่า (เฉินอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม) และ เฉินหวนจิ้ง (เฉินสิ่งแวดล้อม) ตามลำดับ คือ คาร์บอนต่ำ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมสีเขียว ล้วนอยู่บ้านผม" เขายังเล่าว่า เวลาอยู่ที่บ้านก็ใช้ชื่อใหม่ที่เปลี่ยนมา

เขายังระบุว่า ในที่ประชุม "สองสภาฯ" ปีนี้ เขาก็ยื่นญัตติเกี่ยวกับคาร์บอนต่ำสีเขียวด้วย

"ข้อเสนอในปีนี้คือ นำคำว่า 'อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม' 'การกุศล' 'ระบบนิเวศ' ไปพิมพ์ไว้ในเครื่องใช้ประจำวันของเรา เพื่อตอกย้ำความรับผิดชอบต่อสังคม อย่างเช่น เมื่อหยิบตะเกียบขึ้นมา บนตะเกียบพิมพ์ไว้ว่า 'การใช้ชีวิตคาร์บอนต่ำ ทุกคนล้วนมีหน้าที่' 'อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสร้างความผาสุกแก่ชนรุ่นหลัง' เป็นต้น ซึ่งเป็นการเสริมจิตสำนึกให้มากขึ้นในทุกด้าน ผมคิดว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง"

ข้อสังเกตจากเสื้อสูทของเฉินกวงเปียว

ปักคำขวัญไว้ประโยคหนึ่ง "ช่วยผู้อื่น ทำให้เรามีความสุข" ซึ่งเฉินกวงเปียวเป็นผู้ออกแบบเอง

เฉนกวงเปียว ผู้ได้รางวัล "บุคคลแห่งปี 2008"

(IN/LING)