ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนปีค.ศ.2011 ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน ได้ปรับค่าจอดรถให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายการปรับปรุงการจราจรประการหนึ่งของกรุงปักกิ่ง นโยบายดังกล่าวดำเนินมาประมาณ 1 เดือนแล้ว ได้ผลอย่างไร วันนี้ เรามาคุยกันหน่อยนะคะ
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนปี 2011 กรุงปักกิ่ง เริ่มปรับค่าจอดรถกลางวันในสถานที่จอดรถที่ไม่ใช่ประเภทเขตชุมชน และเพื่อให้การเก็บค่าจอดรถเป็นไปตามระเบียบ หน่วยงานด้านการจราจรของกรุงปักกิ่งยังได้จัดสอบเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลการจอดรถและมอบบัตรให้ด้วย ทำให้คนดูแลสถานที่จอดรถต้องมีบัตรทำงานเฉพาะ จึงจะถูกต้องตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ การเก็บค่าจอดรถในกรุงปักกิ่ง ไม่ค่อยเป็นระเบียบ ในย่านการค้า จะแพงกว่าที่อื่นหลายเท่า บางสถานที่ไม่ได้เก็บค่าจอดตามเวลา แด่เก็บแบบเหมาจอดต่อครั้ง การปรับค่าจอดรถของกรุงปักกิ่งครั้งนี้ ได้แบ่งพื้นที่ทั่วกรุงปักกิ่งเป็น 3 โซน ซึ่งจะเก็บค่าจอดรถไม่เท่ากันช่วงในกลางวัน โดยนับตั้งแต่เวลา 07.00 น. จนถึง 21.00 น.ทุกวัน โซนแรกคือ ภายในถนนวงแหวนที่สาม และสถานที่สำคัญ 4 แห่งอยู่นอกถนนวงแหวนที่ 3 ได้แก่ เขตซีบีดี เขตเยี่ยนซา เขตจงกวนชุน และเขตการค้าชุ่ยเวย ที่จอดรถในสถานที่ดังกล่าว จะเก็บค่าจอดแพง ถ้าจอดรถริมถนน ชั่วโมงแรกคือ 10 หยวน เกินกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว จะเพิ่ม 50% คือ 15 หยวนต่อชั่วโมง ส่วนสนามจอดรถกลางแจ้ง จะเก็บ 8 หยวนต่อชั่วโมง สนามจอดรถใต้ตินจะเก็บ 6 หยวนต่อชั่วโมง ส่วนโซนที่ 2 คือ ภายในบริเวณถนนวงแหวนที่ 5 ยกเว้น 4 เขตที่ถูกผนวกไว้ในโซนที่ 1 จะเก็บค่าจอดรถ โดยที่จอดริมถนนเก็บ 6 หยวนในชั่วโมงแรกและ 9 หยวนในชั่วโมงถัดไป เก็บค่าจอด 5 หยวนในสนามจอดรถกลางแจ้งและสนามจอดรถใต้ดิน โซนที่ 3 คือ สถานที่นอกถนนวงแหวนที่ 5 จะเก็บค่อจอดรถ 2 หยวนต่อชั่วโมง
การปรับค่าจอดรถให้เพิ่มมากขึ้นนั้น ทางรัฐบาลเห็นว่า จะมีส่วนช่วยต่อการยับยั้งการซื้อรถและการขับรถ เนื่องจากว่าต้นทุนการใช้รถส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ช่วงวันที่ 1-15 เมษายน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่จอดรถต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการลดค่าจอดรถ คือไม่ปฏิบัติตามกฎบะเบียบ ถ้ามีผู้ใดลดค่าจอดรถเอง โดยพลการ จะถูกปรับ ซึ่งมาตรการดังกล่าว ก็เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงปักกิ่ง ตรงกันข้าม หากมีผู้ใดเก็บค่าจอดรถมากกว่าที่กำหนดไว้ ก็มีสิทธิ์โทรศัพท์ร้องเรียนเอาเรื่องได้
***
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
1 ปักกิ่งมีรถจำนวนมาก เกือบ 5 ล้านคันแล้ว รถเหล่านี้ มี 80% เป็นรถส่วนตัว การเพิ่มค่าจอดรถนั้น เพื่อที่จะเสนอการออกเดินทางสีเขียวให้ผู้คน นั่นก็คือ ใช้รถประจำทางและรถไฟใต้ดิน
2 การจับฉลากทะเบียนรถของกรุงปักกิ่งยังดำเนินการต่อไป ซึ่งปัจจุบัน จนถึงเดือนนี้ มีผู้แสดงความจำนงประมาณ 5 แสนคนแล้ว แต่ทะเบียนที่จะออกให้แต่ละเดือนเพียง 20,000 ทะเบียนเท่านั้น
3 มีผู้คนคิดวิธีหนีค่าจอดและค่าปรับจากตำรวจ เช่น ติดใบสั่งเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เล่ากันสนุกสนาน
4 เมื่อประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ซื้อรถมากขึ้น ปัญหาการจราจรและที่จอดรถก็จะเกิดขึ้นด้วย การเพิ่มค่าจอดนั้นจะเป็นปัญหามากแก่คนที่ต้องขับรถจริงๆ เพราะว่าซื้อรถแล้ว จอดไว้หน้าบ้านและไปนั่งรถประจำทางจะเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล และไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาการจราจรที่แท้จริง
5 หลังเพิ่มค่าจอดรถ สิ่งที่เราเห็นคือ
๑ คนจำนวนหนึ่งไม่ขับรถออกจากบ้าน จอดไว้ที่บ้าน ประหยัดค่าน้ำมันด้วย ซึ่งค่าน้ำมันตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นแล้ว เบนซิน 93 ราคา 7.85หยวน เบนซิน 97 ราคา 8.36หยวน
๒ คนที่ไปเที่ยวห้างน้อยลง เพราะว่าจ่ายค่าจอดไม่ไหว นอกจากบางห้างมีนโยบายพิเศษ ซื้อของแล้วได้จอดฟรี
๓ เกิดปัญหาเจ้าของรถทำร้ายพนักงานดูแลที่จอด และพนักงานจำนวนหนึ่งต้องว่างงานเพราะเหมาที่จอดแล้วไม่ได้ทุนคืน
(In/Ping)