สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการประเด็นวันนี้ วันนี้ เราจะคุยกันเรื่องพิพิธภัณฑ์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เป็นวันพิพิธภัณฑ์สากล โดยเริ่มตั้งแต่ปี 1977 จนถึงปีนี้เป็นปีที่ 35 แล้ว แต่ละปีจะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง สมาคมพิพิธภัณฑ์แห่งประเทศจีนได้เข้าเป็นสมาชิกสมาคมพิพิธภัณฑ์โลกเมื่อปี 1983 จีนมีพิพิธภัณฑ์มากมาย เฉพาะกรุงปักกิ่ง ก็มีพิพิธภัณฑ์ทั้งของภาครัฐและเอกชนเกือบ 100 แห่ง ในจำนวนนี้ มี 46 แห่งเปิดให้เข้าชมฟรี แต่ว่าวันนี้ เราจะไม่แนะนำพิพิธภัณฑ์ที่ปักกิ่ง แต่จะแนะนำพิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ที่น่าสนใจทีเดียว

พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้สร้างเมื่อปี 1952 และได้หาสถานที่สร้างอาคารใหม่เมื่อปี 1996 ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีโบราณวัตถุประมาณ 1 ล้านชิ้น โบราณวัตถุล้ำค่า 1 แสน 2 หมื่นชิ้น รวมทั้งเครื่องโลหะสำริด เครื่องปั้นดินเผา ภาพวาด ภาพเขียน ประติมากรรม เฟอร์นิเจอร์ ตราแกะสลัก เงิน เครื่องหยก และไม้แกะสลัก เป็นต้น มีทั้งหมด 31 ประเภท

พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้เป็นอาคารกว้างใหญ่ มีทั้งหมด 4 ชั้น แบ่งเป็นห้องโชว์ต่างๆ สำหรับโลหะสำริด เครื่องปั้นดินเผา ภาพวาดและศิลปะของชนส่วนน้อย เป็นต้น ทั้งหมด 13 ห้อง ของที่จัดแสดงในห้อง มีโบราณวัตถุที่มีอายุกว่าหมื่นปี และมีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ล้วนเป็นสุดยอดสิ่งของของทุกยุคทุกสมัย ในพิพิธภัณฑ์มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครคอยให้บริการผู้เข้าชม มีเทปเสียงให้เช่าฟัง มีระบบวิดิทัศน์ให้ข้อมูล ผู้ที่เข้าชม ไม่ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือนักท่องเที่ยวทั่วไป ล้วนได้รับความสะดวกสบาย

ชั้นหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ มีห้องโชว์ 2 ห้อง คือห้องโลหะสำริดและห้องประติมากรรมสมัยโบราณของจีน ห้องโลหะสำริดได้จัดการแสดงโลหะสำริดในสมัยราชวงศ์เซี่ยก่อนค.ศ.2100 ปี จำนวนกว่า 400 ชิ้น โดยมีภาชนะใส่เหล้า ภาชนะใส่อาหาร เครื่องดนตรีและอาวุธ เป็นต้น เครื่องโลหะสำริดพวกนี้มีรูปร่างพิเศษ มีลวดลายสวยงาม และมีบันทึกกิจกรรมต่างๆของตระกูลคหบดี ฉะนั้น เครื่องโลหะสำริดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงถึงอารยธรรมสมัยโบราณ เป็นมรดกวัฒนธรรมสำคัญของจีน

ห้องประติมากรรมโบราณมีสิ่งของแสดงอยู่ประมาณ 100 ชิ้น เป็นประติมากรรมที่แกะสลักจากหินและไม้ เครื่องปั้น ทองแดง เป็นต้น ในบรรดาประติมากรรมเหล่านี้ ที่น่าสนใจที่สุดคือพระพุทธรูป มีจากหลายสมัย แสดงให้เห็นถึงพุทธลักษณะที่แตกต่างกัน สำหรับผู้ชม สามารถเรียนรู้กระบวนการในการเผยแผ่และวิวัตนการของพุทธศาสนา จนกระทั่งผสมผสานกับวัฒนธรรมจีน

ชั้นสองมีห้องโชว์เครื่องปั้นดินเผาสมัยโบราณของจีน ในนี้มีเครื่องปั้นดินเผากว่า 500 ชิ้น มีตั้งแต่ยุคหินใหม่จนถึงปลายราชวงศ์ชิง ให้ผู้ชมมีโอกาสสัมผัสกับของล้ำค่าต่างๆ เรียนรู้ประวัติวิวัตนการของเครื่องปั้นดินเผาจีนที่มีความเป็นมากว่า 8,000 ปี ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า ห้องนี้ เราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ชมศิลปะและดูผลงานการศึกษาวิจัย

ชั้นสามของพิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้มีห้องจัดแสดงสามห้อง คือ ห้องแสดงภาพวาดจีน ห้องแสดงภาพเขียนภู่กันจีน และห้องแสดงตราประทับ ห้องแสดงภาพเขียนตกแต่งเป็นสไตล์โบราณ เหมือนห้องอ่านหนังสือ มีภาพเขียนกว่า 100 ภาพ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ผ่านสมัยราชวงศ์ซ่ง หยวน หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง ภาพเขียนที่แสดงเป็นของหลายศิลปิน มีสไตล์ต่างกัน แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมประเพณีที่หลากหลายของจีนในสมัยโบราณ ห้องภาพเขียนภู่กันจีนได้แสดงภาพเขียนภู่กันของหลายสมัยกว่า 60 ชิ้น มีบทความ บทกวี บันทึกแกะสลักบนศิลาจารึก เป็นต้น นับเป็นสิ่งที่หาชมยากพอสมควร ส่วนห้องตราประทับ ล้วนเป็นของที่มีเอกลักษณ์ที่คัดเลือกจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆ จีนมีการแกะสลักและใช้ตราประทับตั้งแต่โบราณ ฉะนั้น ตราประทับถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นพิเศษอย่างหนึ่งของจีน ห้องนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ถ้าหากว่าท่านเป็นคนสนใจวัฒนธรรมจีนค่ะ

ชั้นสี่ของพิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้มีห้องโชว์สี่ห้อง ได้แก่ ห้องแสดงเครื่องหยกโบราณ ห้องแสดงเฟอร์นิเจอร์ราชวงศ์หมิงและชิง ห้องแสดงศิลปะชนส่วนน้อยของจีนและห้องแสดงเงินตราของจีน

ห้องแสดงเครื่องหยกโบราณมีเครื่องหยกที่จัดแสดงไว้ประมาณ 400 ชิ้น บางส่วนเป็นของที่ขุดพบในยุคหินใหม่ จากวิธีแกะสลักหยก เราสามารถเข้าใจว่า ในสมัยราชวงศ์ซาง เป็นช่วงที่ฝีมือการแกะสลักดีเยี่ยม และสืบทอดจนถึงราชวงศ์ฮั่น แต่หลังจากนั้นก็เสื่อมลง และกลับมารุ่งเรืองอีกในสมัยราชวงศ์ถัง ถึงเวลานั้น เครื่องหยกเริ่มเปลี่ยนจากเครื่องตกแต่งเป็นเครื่องใช้บ้าง กล่าวได้ว่าเป็นวิวัฒนาการวัฒนธรรมเครื่องหยก

ห้องแสดงเฟอร์นิเจอร์ราชวงศ์หมิงและชิงมีเฟอร์นิเจอร์ประมาณ 100 ชิ้น และจัดเป็นแบบบ้านเก่าในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ให้ผู้ชมสัมผัสกับบรรยากาศในสมัยนั้น

ห้องศิลปะชนส่วนน้อยของจีน มีผ้าปัก เครื่องเงินเครื่องทอง ประติมากรรม เครื่องปั้นดินเผาและของอื่นๆกว่า 600 ชิ้น เป็นของชนส่วนน้อย มีลักษณะพิเศษต่างจากชาวจีนทั่วไป แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายและสีสันสวยงามของชนชาติจีน

ห้องแสดงเงินตราสมัยโบราณของจีนจัดเป็นห้องที่ล้ำค่าห้องหนึ่ง มีแต่เงินทองอย่างเดียว เงินตราเหล่านี้ ทำจากหอย เหล็ก ทองแดง เงิน ทอง จนถึงพันธบัตร สิ่งที่น่าเอ่ยถึงคือ มีตู้โชว์พิเศษเงินตราจากต่างประเทศ ซึ่งได้ค้นพบจากเส้นทางสายไหมทั้งทะเลสาปและทะเลทราย มีทั้งของเปอร์เซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น และมีของประเทศไทยด้วย น่าสนใจทีเดียวค่ะ

ท่านผู้ฟังคะ วันนี้วันที่ 26 พฤษภาคม อีกไม่กี่วันก็จะถึงเดือนมิถุนายนแล้ว ซึ่งเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ก็จะถึงช่วงปิดเทอมระหว่างมีการศึกษา ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาวของนักเรียนนักศึกษา โดยจะหยุดตั้งแต่เดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคมเป็นเวลา 2 เดือน สำหรับชาวจีน ในช่วงหยุดยาว มักจะพาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัด ที่พลาดไม่ได้ก็คือไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่สำคัญที่จะให้ความรู้แก่เด็กๆ ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของผู้ใหญ่ที่จะให้เด็กเรียนรู้ให้หลากหลาย นอกจากนี้ ปิดเทอมครั้งนี้ เป็นการพักร้อน ฉะนั้น ก็เป็นเวลาที่ครอบครัวจะหาเวลาออกไปเที่ยวชานเมือง โดยเฉพาะสถานที่ที่มีภูเขาและสายน้ำ รายการครั้งต่อไป จะนำสถานที่ท่องเที่ยวชานเมืองมาเสนอให้ท่านผู้ฟังได้รู้จักค่ะ ซึ่งกล่าวได้ว่า สถานที่เหล่านั้น บางส่วนก็เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีมาช้านานเป็นพันปี เช่น บริเวณกำแพงเมืองจีนเซอหม่าถัย และภูเขาหยุนเหมิง ซึ่งมียอดเขาที่สูงสุด 2,118 เมตร เป็นภูเขาที่สูงสุดในบริเวณรอบกรุงปักกิ่ง ตอนนี้แม้ว่าที่กรุงปักกิ่งอุณหภูมิจะสูงถึง 30 องศาแล้วก็ตาม แต่ที่นั่นเพียง 8 องศาเท่านั้น เดือนหน้า เราไปพักร้อนด้วยกันที่นั่นได้เลยค่ะ

(In/Ping)