ในเวลานี้ ผู้คนทั่วโลกหันมาให้ความใส่ใจและความสำคัญกับวัตถุดิบที่นำประกอบอาหารกันมากขึ้น เนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บที่แฝงมากับการบริโภคที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งผู้คนตามเมืองใหญ่ที่มีพื้นที่เและทุนเล็กน้อยเริ่มหันมาปลูกผักรับประทานเองบ้างแล้ว ชาวปักกิ่งก็เช่นกัน คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเกษตรสีเขียวและอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะกระแสเกษตรสีเขียวนี้เริ่มเป็นที่รู้จักเกือบสิบปีแล้วในแวดวงชาวปักกิ่งที่รักสุขภาพ ได้มีการรวมตัวของผู้บริโภคเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งและรวมตัวทำกิจกรรมสม่ำเสมอ

บรรยากาศไร่ผักและเลี้ยงสัตว์แบบปลอดสารเคมี

จากการสำรวจความคิดเห็น ชาวปักกิ่งที่หันมาใส่ใจในสุขภาพของตนนั้นเหตุผลส่วนใหญ่มาจากวัตถุดิบที่ประกอบอาหารในปัจจุบันมีสารเคมีและสารปนเปื้อนจำนวนมาก บางคนถึงกับกล่าวว่า "ผักและอาหารในปัจจุบันนั้น ราคาไม่สมกับรสชาติ บางจานไม่มีรสชาติเลยทำให้คิดถึงรสชาติของผักและอาหารที่กินเมื่อตอนเด็ก" ทำให้ชาวปักกิ่งกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวและลงทุนร่วมกันมูลค่า 16,000 หยวน (ประมาณ 72,000 บาท) ออกไปเช่าที่ดินตามชานเมือง ปลูกผักต่างๆ เลี้ยงไก่และหมู นอกจากจะไว้บริโภคเองแล้ว ยังนำออกมาจำหน่ายให้ร้านอาหารและลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพเช่นเดียวกับพวกเขาอีกด้วย อีกทั้งยังเก็บค่าสมาชิกรายละ 300 หยวนต่อสัปดาห์(ประมาณ 1,400 บาท) สำหรับผัก ไข่ไก่และเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษที่จะจัดส่งถึงบ้าน ค่าสมาชิกนี้ยังเป็นค่าตอบแทนให้กับชาวบ้านที่เข้ามาดูแลไร่ผักและเลี้ยงสัตว์ให้อีกด้วย เท่ากับว่า เป็นการสนับสนุนเกษตกรและชุมชนโดยตรง และมีเกษตรกรจำนวนไม่น้อย ที่เริ่มหันมาปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ปลอดสารพิษบ้างแล้ว

ผลิตภัณฑ์ผักปลอดสารพิษ

กระแสเกษตรสีเขียวและอาหารเพื่อสุขภาพของที่นี่นั้น ยังอยู่ในเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง เพราะพืชผัก เนื้อสัตว์ปลอดสารของที่นี่ ราคาสูงมากหากเปรียบเทียบกับราคาในตลาดสดทั่วไป ผู้บริโภคเหล่านี้จึงมีโอกาสเลือกในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อสิ่งที่ดีสำหรับสุขภาพของตนและครอบครัวได้ แต่หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเกษตรสีเขียวได้ให้ความเห็นว่า เกษตรกรรมในปัจจุบันมีรูปแบบที่ทันสมัยและผลิตสนองความต้องการของตลาดใหญ่ ทำให้เกษตรกรรมขนาดเล็กหรือเป็นแบบพื้นบ้านถูกกีดกันทางการตลาดและหายไป รูปแบบเกษตรสีเขียวที่ทางกลุ่มได้ดำเนินอยู่นั้น ช่วยรักษาและหล่อเลี้ยงให้เกษตรกรรมแบบพื้นบ้านนั้นคงอยู่ ทางกลุ่มกำลังพิจารณาถึงการจดทะเบียนกลุ่มเกษตรสีเขียวของตนให้ถูกต้องตามกฏหมาย และดำเนินงานกิจกรรมแบบตลาดนัดสีเขียว เพื่อนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาจัดจำหน่ายในกรุงปักกิ่งและชานเมืองใกล้เคียงเป็นประจำรายสัปดาห์ และรายเดือน เพื่อให้เข้าถึงชาวเมืองทุกระดับ หันมาบริโภคและใส่ใจอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะมันไม่ใช่แค่ทำให้สุขภาพของเราแข็งแรงเท่านั้น มันยังทำให้เกษตกรและชุมชนแบบพื้นบ้านคงอยู่อย่างยั่งยืนด้วย