หนาวนี้ที่ปักกิ่ง:สิ่งที่ต้องเจอ
  2011-12-14 16:50:12  Xinhua

ช่วงนี้อากาศในปักกิ่งกำลังหนาวจัดชนิดที่ว่าหากออกจากบ้านแล้วลืมหมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้าและเสื้อกันหนาวแล้ว อาจจะออกจากประตูบ้านได้ไม่เกิน 5 ก้าวก็ต้องวิ่งอ้าวกลับมาใส่ ทนไหวได้ไง เพราะอากาศสูงสุดอยู่ที่ประมาณ -1 ต่ำสุดเบาะ ๆ แค่ -6 หมวกต้องหนา ผ้าพันคอหนานุ่ม ถุงมือก็ต้องเป็นถุงมือที่หนาเป็นพิเศษอาจจะมีพวกหนัง หรือขนสัตว์ใยสังเคราะห์บุข้างใน

รองเท้าก็เช่นกันต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะเท้าถือเป็นศูนย์รวมประสาทที่สำคัญ หากไม่รักษาให้อบอุ่นอาจมีปัญหาต่อสุขภาพส่วนอื่น ๆ ได้ เพราะฉะนั้นการแต่งกายในหน้าหนาวจึงต้องใช้เวลานาน จำได้ว่าเพื่อคนไทยชอบหน้าหนาวในจีนพวกเขาบอกว่าได้เห็นคนแต่งกายสวย ๆ ซึ่งที่ไทยไม่ค่อยได้เจอเพราอากาศที่นั่นต่างจากที่จีนมาก แม้จะมีข่าวฮือฮาว่าวานนี้(13 ธันวาคม 2011) อุณหภูมิที่กรุงเทพฯ จะลดต่ำถึง 19 องศาก็ตาม แต่ถ้าเทียบกับปักกิ่งแล้วยังถือว่าห่างไกลกันอยู่มาก

หนาวขนาดไหนสำหรับปักกิ่งขณะนี้เทน้ำลงพื้นก็กลายเป็นน้ำแข็งให้เห็นทันตา น้ำในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว ซึ่งอีกหน่อยก็จะกลายสภาพเป็นลานสเก็ต ให้ผู้คนทุกเพศทุกวัยได้สนุกสนานท่ามกลางความเย็นยะเยือก เลือกรูปแบบการเล่นกับน้ำแข็งได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็นการนั่งบนเก้าอี้แล้วลื่นไถลไปมาซึ่งมักจะเห็นในหมู่เด็กเล็กและผู้สูงวัย หรือการใช้รองเท้า สเก็ตโลดโผนโจนทะยานในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาว เครื่องเล่นสำหรับหน้าหนาวที่ให้ประโยชน์ทั้งในแง่ของการออกกำลังกายและความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี เพราะหนาว ๆ อย่างนี้โอกาสในการออกมาเดินออกกำลังกายกลางแจ้งตามลานกีฬาของชุมชนและสนามกีฬาต่าง ๆ จะทำได้ยากจากสภาพอากาศจึงไม่แปลกที่คนจีนจะบอกว่ามักจะอ้วนในหน้าหนาว เพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเอาแต่กินอย่างเดียว

พูดถึงเรื่องกิน สัญลักษณ์ของหน้าหนาวอย่างหนึ่งที่มีเสน่ห์มาก ๆ คือ ของคั่วและปิ้งย่างทั้งหลาย อย่างมันเผาที่เขาจะใช้ถังน้ำมันขนาดใหญ่มาเจาะทำเป็นเตาใส่ถ่านเข้าไปชั้นล่างแล้วก็มีตะแกรงวางตรงกลางบนนั้นเรียงรายไปด้วยมันเผากันจนสุก เมื่อสุกได้ที่ก็จะเอามาวางบนด้านบนสุดของเตาซึ่งจะอุ่นอยู่ตลอดเวลาแล้วก็จะส่งกลิ่นหอมเรียกลูกค้า สนนราคาต่อชั่งอยู่ที่ 3-5 หยวน เพื่อนคนไทยหลายคนบอกว่ามันเผาที่นี่รสหวานหอมกินแล้วเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเพลินเกินไปอาจทำให้อ้วนได้

เกาลัดคั่ว ที่คั่วโดยเตาอัตโนมัติหมุนไปมาทำให้เกาลัดสุกอย่างถ้วนทั่ว ขณะคั่วมีกลิ่นหอม เมื่อนำออกจากเตาแล้วพ่อค้าแม่ค้ามักจะนำมาวางบนถาด กระด้ง หรือกระจาด ผึ่งให้เย็น ถ้าใครไปซื้อในขณะร้อน ๆ เขาก็มักจะแนะนำว่าอย่าปิดปากถุง เพราะจะทำให้ไอความร้อนไม่ได้ระเหยออกมาจะกลายเป็นน้ำทำให้ความหอมและความอร่อยลดลง สนนราคาของเกาลัดคั่วอยู่ที่ชั่งละ 10-13 หยวน

บรรดาธัญพืชชนิดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมและวางขายทั้งที่คั่วไปขายไปและประเภทที่คั่วเอาไว้นานแล้วก็มีให้เลือกสรรอยู่อีกมาก อย่างเมล็ดทานตะวันมีหลากหลายรสชาติ หลากหลายกลิ่น ตั้งแต่ประเภทดั้งเดิมคั่วเฉย ๆ ไม่ใส่อะไรเลยจนถึงพวกที่ใส่รสบ๊วย ซีอิ้ว เครื่องปรุงต่าง ๆ ลงไปเพื่อเอาใจผู้บริโภค หรือเมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงชนิดต่าง ๆ วอลนัท พิตาชิโอ้ ฯลฯ เรียกว่ามีให้เลือกสรรในราคาที่หลากหลายตามชนิดและระดับคุณภาพ กินแล้วเพลินได้ประโยชน์ต่อร่างกายแล้วยังช่วยคลายหนาวได้ด้วย

ประเภทผลไม้ที่นำมาเสียบเป็นไม้ ๆ แล้วเคลือบด้วยน้ำตาลทรายก็ถือว่าเป็นอาหารเด่นในหน้าหนาวอย่าง ซันจาที่มีคุณประโยชน์ในการช่วยย่อย บำรุงปอด ส้ม สตรอเบอรี่ องุ่น ฯลฯ ซื้อหากันได้โดยทั่วไป ทั้งที่วางขายในซุเปอร์มาเก็ตหรู หรือที่อยู่ตามริมถนนโดยทั่วไป เวลาซื้อคนขายจะถามว่าจะให้ห่อกระดาษและใส่ถุงหรือไม่เพราะของดังกล่าวเคลือบด้วยน้ำตาล กระดาษที่ห่อเป็นกระดาษที่สามารถรับประทานได้ซึ่งเขาจะห่อและใส่ถุงให้ฟรี สนนราคาอยู่ที่ไม้ละ 2.50-5 หยวน แล้วแต่ชนิดของผลไม้

เครื่องดื่มอุ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ น้ำเต้าหู้ นม ก็เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะหน้าหนาวดื่มสิ่งเหล่านี้เข้าไปช่วยให้คลายหนาวแล้วยังเป็นการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับร่างกาย หน้าหนาวอากาศแห้ง จึงต้องจิบน้ำอยู่เสมอแม้แต่ในครัวเรือนก็มีคำแนะนำให้ตั้งกะละมังหรือถังน้ำไว้ในจุดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ปีที่แล้วเพื่อนคนไทยทนไม่ไหวกับอากาศแห้งถึงขั้นเลือดกำเดาไหล แต่หลังจากได้วางถังน้ำไว้ตามจุดต่าง ๆ บ้านก็ไม่มีอาการนั้นอีก

เนื้อแพะย่างเสียบเป็นไม้ ๆ มีขายโดยทั่วไป กินแล้วเพิ่มความร้อนให้กับร่างกายแต่หากกินวันละมาก ๆ และติดต่อกันอาจนำให้ร้อนในถึงขั้นมีเลือดออกตามไรฟันได้ อันนี้เพื่อนร่วมงานคนไทยเคยเจอมาแล้วจนต้องไปหาหมอกลางดึกและด้วยความเชี่ยวชาญของหมอก็พอดูออกว่าคนไข้คนนี้คงสวาปามเนื้อแพะเข้าไปมาก วันละไม้สองไม้พอไหว

อากาศหนาวอย่างนี้ นอกจากเสื้อผ้า อาหารการกินจะมีส่วนที่ทำให้เราหนาวหรืออุ่นแล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พึงต้องระวังคือเรื่องผิวหนังที่จะแห้ง แตกเป็นขุย ซึ่งมีวิธีการดูแลตั้งแต่การอาบน้ำ พยายามใช้สบู่ให้น้อยและไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ทุกครั้งเพื่อนคนจีนบอกว่าไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกวันเพราะฤดูนี้ไม่มีเหงื่อ กลิ่นกายจึงไม่ออกมาโชย หลังอาบน้ำสิ่งที่ต้องทำคือ ทาผิวด้วยน้ำมันมะกอก ครีมประเภทต่าง ๆ เชื่อหรือไม่ครีมทาผิวเด็กอย่างเป่าเป้ยซองละหยวนจะช่วยให้ผิวเราไม่แตกใช้ได้ทั้งหน้าและกาย สบายเพราะถูกจัง

หน้านี้ช่วยประหยัดน้ำได้มาก เพราะอาบน้ำกันน้อย เสื้อผ้าใส่ติดต่อกันได้หลายครั้ง บางคนใส่ตลอดฤดูโดยไม่ซัก เห็นไหมหน้าหนาวก็มีเสน่ห์อย่างนี้แหละ ว่าแต่คุณจะมาสัมผัสลมหนาวที่ปักกิ่งบ้างหรือเปล่าล่ะ มานะลมหนาวรออยู่

In

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040