เมื่อเร็วๆ นี้ องค์การตรวจสอบการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศเผยที่กรุงลอนดอนว่า ในปี 2011 ทั่วโลกมีคดีลักลอบค้างาช้าง 13 ราย โดยยึดงาช้างรวมแล้วมีน้ำหนักเกิน 23 ตัน ซึ่งหมายความว่า มีช้างอย่างน้อย 2,500 ตัวถูกฆ่า โดยประเทศในแอฟริกายังคงเป็นประเทศที่มีการฆ่าช้างมากที่สุด

องค์การดังกล่าวเผยว่า ตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ทั่วโลกได้จับคดีลักลอบค้างาช้าง 17,000 ราย และปีหลังๆ นี้ การค้างาช้างผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปี 2011 มีความร้ายแรงที่สุด คดีลักลอบค้างาช้างส่วนใหญ่เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชีย ซึ่งภาคกลางของทวีปแอฟริกามีการลักลอบฆ่าช้างมากที่สุด ในเขตห้ามล่าสัตว์แห่งหนึ่งในแทนซาเนีย เฉลี่ยแล้วทุกเดือนมีช้างถูกฆ่าถึง 50 ตัว และงาช้างแอฟริกาในที่สุดจะขายไปยังประเทศในเอเชียหมด โดยมาเลเซียกำลังกลายเป็นศูนย์กลางลักลอบค้างาช้างที่สำคัญ