งานสตรอเบอร์รี่นานาชาติริเริ่มจากสมาคมศิลปะจัดสวนระหว่างประเทศ และจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 4 ปี โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่อิตาลีเมื่อปี 1988 ถือเป็นงานระดับสูงสุดของกิจการสตรอเบอร์รี่โลก และกล่าวได้ว่า เป็นงานยิ่งใหญ่ที่หวานหอมที่สุดในโลกด้วย งานสตรอเบอร์รี่ครั้งที่ 7 จัดขึ้นในเขตชางผิงทางภาคเหนือของกรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 18-22 กุมภาพันธ์นี้ นับเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเอเชีย

งานสตรอเบอร์รี่ครั้งนี้ได้สร้างความสนใจและทำให้มีผู้แทนเกือบ 1,000 คนจาก 66 ประเทศและเขตแคว้นมาร่วมงาน ซึ่งเกือบครอบคุมเขตปลูกสตรอเบอร์รี่ทั่วโลก และได้จัดแสดงพันธ์สตรอเบอร์รี่ทั้งหมด 135 ชนิด

งานสตรอเบอร์รี่ครั้งนี้มีหัวข้อหลักว่า "สุขภาพดี การพัฒนา การแป่งปัน" และมีคำขวัญประจำงานว่า "สตรอเบอร์รี่ทำให้ชีวิตหวานแหววขึ้น" ถือเป็นครั้งแรกที่มีทั้งการประชุมด้านวิชาการและงานนิทรรศการรวมไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลผลิตล่าสุด และการอภิปรายเกี่ยวกับการลงทุนด้วย

เขตการแสดงมีพื้นที่มากกว่า 100,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 5 ส่วนตามเนื้อหาการแสดง ได้แก่ การแสดงด้านอุตลาหกรรมสตรอเบอร์รี่ การจัดแสดงสตรอเบอร์รี่นานาชาติ การแสดงผลงานทางเทคโนโลยีสตรอเบอร์รี่ของจีน การแสดงวัฒนธรรมสตรอเบอร์รี่ และการแสดงอุตสาหกรรมเรือนกระจกสตรอเบอร์รี่ หลังจากงานปิดฉากลงแล้ว หอจัดแสดงหลักนั้น จะสร้างเพิ่มเติมให้เป็นสวนพักผ่อน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

ในงานสตรอเบอร์รี่ครั้งนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจหลากหลายมากมาย และสิ่งที่ต้องมาชมก่อนก็คือ จุดชมทิวทัศน์ "สวนสตรอเบอร์รี่ลอยฟ้า" ซึ่งเป็นแน่นอน เขตสตรอเบอร์รี่ลอยฟ้าประกอบด้วยที่เพาะปลูกสตรอเบอร์รี่แบบไร้ดินจำนวนนับไม่ถ้วน มีความสูงกว่า 2 เมตร กว้าง 48 เมตร และยาว 124 เมตร เดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงสตรอเบอร์รี่กำลังสุกดีและน่ากิน ผลสตรอเบอร์รี่สีแดงนับหมื่นลูกทอดตัวลงใต้ใบสีเขียวสดชื่น กระจายกลิ่นหอมหวาน ผู้ชมที่เดินผ่านข้างล่างเงยหน้าขึ้นมาชมสตรอเบร์รีกัน

อีกทั้งยังแสดงเทคโนโลยีใหม่ด้วย โดยบริษัทต่างๆ ที่เข้าร่วมจัดแสดงต่างเน้นด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น "ตู้สตรอเบอร์รี่" เครื่องบันทึกจำนวนลดปริมาณการกระจายคาร์บอนไดออกไซด์

"ตู้สตรอเบอร์รี่" หรือ โรงงานปลูกพืชขนาดเล็ก มีความสูง 1.8 เมตร มีขนาดและรูปทรงเท่ากับตู้เย็นแบบ 3 ประตู เป็นเครื่องเพาะปลูกไร้ดิน เหมาะกับใช้ในบ้าน นอกจากปลูกสตรอเบอร์รี่แล้ว ยังใช้ปลูกผักได้อีกด้วย ภายในตู้แบ่งเป็น 3 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีหลอดไฟ และมีเครื่องเพิ่มความชื้นด้วย วิธีการใช้ก็ง่ายมาก แค่นำหน่อของต้นไม้ลงไปปลูก ใส่น้ำสารอาหาร ตั้งอุณหภูมิ ความชื้น และแสงเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของคอมพิวเตอร์ช่วยดูแล

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เครื่องบันทึกจำนวนลดปริมาณการกระจายคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากมีปุ่มตัวเลขแล้ว ยังมีปุ่มสำหรับชื่ออาหารต่างๆ เช่น สตรอเบอร์รี่ แอปเปิล เนื้อไก่ เป็นต้น วิธีใช้คือ กดปุ่มตัวเลข 1 แล้วกดสตรอเบอร์รี่ ก็จะได้ตัวเลข 1.08 ซึ่งหมายถึง ถ้าเรากินสตรอเบอร์รี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 1 กิโลกรัม จะช่วยลดปริมาณการกระจายคาร์บอนไดออกไซด์ 1.08 กิโลกรัม

Ying/Ldan