ระหว่างวันที่ 17-19 เมษายนที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยได้นำคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมงานสัมมนาการลงทุนระหว่างไทย-จีนที่กรุงปักกิ่ง กล่าวคำปราศรัยในหัวข้อ "Thailand: Creating the Future" เพื่อที่จะส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน
งานสัมมนาครั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงภาครัฐ ผู้นำทางธุรกิจ และผู้แทนจากบริษัทชั้นนำของประเทศจีน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนของฝ่ายไทย รวมกว่า 700 คนเข้าร่วมด้วยกัน
ประเทศจีนไม่เพียงแต่เป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับประเทศไทยเสมอมา ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน มีการพัฒนาและผูกพันกันมายาวนานในทุกๆด้าน ทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ และมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นในทุกระดับ ทั้งระดับผู้นำ ระดับหน่วยงาน และระดับประชาชน
ประเทศจีนในวันนี้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ในทุกๆด้าน ประกอบกับการเมืองที่มั่นคง และความมีศักยภาพรอบด้าน ทำให้จีนเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก และคู่ค้าสำคัญของหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
ในช่วง 4-5 ปีมานี้ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย–จีนมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ทั้งในกรอบทวิภาคี พหุภาคี และเวทีภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือทางการค้าภายใต้กรอบความตกลงเอฟทีเอ อาเซียน-จีน ที่ทำให้เกิดข้อตกลงเร่งลดภาษีระหว่างไทยและจีนสำหรับสินค้านำร่องผักและผลไม้ เป็นร้อยละ 0ในปี 2546 ต่อมา ความตกลงเอฟทีเอระหว่างอาเซียนซึ่งรวมไทยด้วย กับประเทศจีน มีการลดภาษีกลุ่มสินค้าปกติลงเป็นร้อยละ 0 ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งความตกลงดังกล่าวทำให้การค้าสองฝ่ายขยายตัวอย่างมาก
ในปัจจุบันจีนเป็นประเทศส่งออกรายใหญ่ที่สุดของไทย และขณะเดียวกันจีนยังเป็นประเทศที่ไทยนำเข้ามากที่สุดเป็นอันดับสอง
ในด้านการลงทุน การลงทุนจากจีนมาไทยเพิ่มมากขึ้นในระยะ 2-3 ปีมานี้ โดยสถิติการขอรับการลงทุนของจีนในปี 2554 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 920 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 1.5 เท่าถึงร้อยละ 62 จัดเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับสองรองจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
ในด้านการท่องเที่ยว ก็พบว่านักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยในปี 2554 มีจำนวนถึง 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยมาเยือนจีนมีจำนวน 500,000 คน แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
(In/Ping)