เมื่อเร็วๆ นี้ นายเซิ่ง ไหลยุ่น โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนกล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2012 เศรษฐกิจจีนในภาพรวมมีผลดำเนินการอย่างมีเสถียรภาพ และการพัฒนาเศรษฐกิจมีความก้าวหน้า
ข้อมูลสถิติในเบื้องต้นระบุว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2012 มวลรวมการผลิตภายในประเทศหรือจีดีพีของจีนคิดเป็น 22.7098 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2011 โดยจีดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้เติบโต 8.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2011 และจีดีพีในไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 7.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2011
ไตรมาสที่ 2 ของปี 2012 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลดลงต่ำกว่า 8% ครั้งที่แล้วที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนไม่ถึง 8% ห่างจากครั้งนี้ถึง 3 ปี เมื่อเผชิญกับความกังวลที่มีต่อแนวโน้มการดำเนินการของเศรษฐกิจจีน นายเซิ่ง ไหลยุ่นกล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนชะลอความเร็วนั้น สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางเศรษฐกิจ
"ถ้าเราไม่ได้เหนื่อยใจกับตัวเลข 8% และตั้งสติพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจจีนทั้งภายในและนอกประเทศในลักษณะภาวะวิสัย จะเห็นได้ว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2012 เศรษฐกิจจีนโดยรวมมีผลดำเนินการอย่างมีเสถียรภาพ ถ้าให้สรุปลักษณะการดำเนินการของเศรษฐกิจจีน สามารถกล่าวได้ว่า เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและมีผลก้าวหน้าด้วย"
นายเซิ่ง ไหลยุ่นชี้ว่า หากมองในแ่ง่การลงทุน การบริโภคและการส่งออก นับเป็น 3 ขุมพลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต เศรษฐกิจจีนยังคงมีแรงขับเคลื่อนที่ค่อนข้างทรงพลัง เขาเชื่อมั่นว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2012 ตามการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
"ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่ออนาคตของเศรษฐกิจจีน และมั่นใจอย่างยิ่งว่า เศรษฐกิจจีนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเติบโตและบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างสำเร็จโดยผ่านการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ พิจารณาในแ่ง่การลงทุน โครงการลงทุนใหม่จำนวนหนึ่งต่างพากันเริ่มต้น หากพิจารณาในแง่การบริโภค บรรยากาศการจำหน่ายสินค้าทั่วทั้งสังคมค่อนข้างมีเสถียรภาพ ขณะนี้ จีนกำลังเข้าสู่ระยะใหม่แห่งการยกระดับโครงสร้างการบริโภค "รัฐบาลจึงจะใช้นโยบายใหม่เพื่อส่งเสริมการบริโภค และยุทธศาสตร์ที่ทำให้การนำเข้าส่งออกของจีนมีความหลากหลายมากขึ้นก็จะได้รับผลสำเร็จอย่างชัดเจน"
Ying/feng