เมื่อเร็วๆ นี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวเป็นนัยขณะแุถลงข่าวว่า จีนใช้ปฏิบัติการโดยลำพังฝ่ายเดียว หากทำเช่นนี้ต่อไป จะน่ากังวลมาก ส่วนนายเจมส์ เวบ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนใช้ท่าทีเชิงคุกคามในปัญหาทะเลใต้ โดยการจัดตั้งองค์กรรัฐบาลขึ้นมาบริหารทะเลใต้
การที่สหรัฐฯ ทำแบบนี้ เพราะมีวาระซ่อนเร้น
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก้าวเข้าศตวรรษใหม่เป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศรอบข้าง รวมทั้งประเทศอาเซียน มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว นโยบายการต่างประเทศของจีนที่มีต่อประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกสื่อมวลชนสหรัฐฯ เห็นว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ตรงกันข้าม สหรัฐฯ ถลำตัวอยู่ในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ตลอดจนสงครามอิรักและสงครามอัฟกานิสถาน จนกังวลอย่างยิ่งว่าจะสูญเสียฐานะและความเหนือกว่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงเร่งปรับยุทธศาสตร์ ซึ่งมีภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลางกลายเป็นจุดสำคัญในการช่วยให้สหรัฐฯ กลับสู่ภูมิภาคนี้ ปัญหาทะเลใต้มีความสำคัญมากต่อสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างฐานะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อต้องการยับยั้งบทบาทของจีนและขยายผลประโยชน์ทางยุทศาสตร์ของตน
สหรัฐอเมริกาก้าวก่ายปัญหาทะเลใต้ด้วยการสร้างประเด็น"การเดินเรือโดยอิสระ" ในน่านน้ำทะเลใต้ และใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อปลุกปั่นทฤษฎีจีนคุกคาม นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมต่างๆ นานา รวมทั้งผลักดันให้ปัญหาทะเลใต้กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ตลอดจนสร้างความแตกแยกระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน
อย่างไรก็ตาม จีนจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศอาเซียนอย่างที่เคยเป็นมาก่อน และจะยืนหยัดพิทักษ์อธิปไตยเหนือเกาะต่างๆ ในทะเลใต้ ตลอดจนผลประโยชน์ทางทะเล ขณะเดียวกัน จีนจะใช้ความพยายามเพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบใหม่ระหว่างประเทศใหญ่กับสหรัฐฯ พร้อมต่อต้านแรงกดดันจากภายนอกที่เกี่ยวกับอธิปไตยเหนือดินแดน ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สำคัญของชาติ