เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา มีการเริ่มซ้อมรบด้านระบบครวจการณ์ตามชายฝั่งทะเลประจำปี 2012 ที่ร่วมกันจัดขึ้นโดยทหาร ตำรวจตรวจการณ์และป้องกันชายฝั่งทะเล และกองตำรวจน้ำแห่งชาติฟิลิปปินส์ ขณะที่สหรัฐฯ ส่งเรือต่อต้านเรือดำน้ำ 1 ลำเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ เพื่อประสานงานสำรวจ ติดตาม และดูแลของเครื่องบินรบทหารเรือฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ตามการเชิญของฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย มาเลเซีย และอินโดนีเซียต่างก็ได้จัดส่งผู้แทนไปร่วมการซ้อมรบในฐานะผู้สังเกตการณ์
การซ้อมรบด้านความสามารถของระบบตรวจการณ์ชายฝั่งทะเลประจำปี 2012 ครั้งนี้จะดำเนินการระหว่างวันที่ 3-7 กันยายนนี้ ผู้เข้าร่วม พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้นั้น มาจากหลายหน่วยงานของฟิลิปปินส์ เช่น ทหารเรือฟิลิปปินส์ได้จัดส่งทหาร 200 นาย รวมทั้งเรือรบ และเครื่องบินจำนวนหนึ่ง ส่วนหน่วยตำรวจของฟิลิปปินส์ก็ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ และหน่วยเรือลาดตระเวนความเร็วสูง เป็นต้นเข้า่ร่วม
การซ้อมรบครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งในระหว่างการสร้าง "ระบบการครวจการณ์ชายฝั่งทะเลทั่วประเทศ" และเคยจัดการซ้อมรบที่คล้ายคลึงกันมาแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากระบบดังกล่าวมีกลไกที่ให้หลากหลายหน่วยงานมีส่วนร่วม จึงต้องมีการซ้อมบ่อยครั้ง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพิ่มขีดความสามารถด้านการแลกเปล่ยนข้อมูลข่าวสาร และใช้ปฏิบัติการร่วมกัน ขณะเดียวกัน การซ้อมรบครั้งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า ระบบการตรวจการณ์ชายฝั่งทะเลทั่วประเทศเริ่มปฏิบัติการอย่างเป็นทางการในเขตมินดาเนาตะวันออก และเป็นการทดลองขีดความสามารถด้านการบัญชาการในบริเวนดังกล่าว
แม้ว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์กล่าวต่อภายนอกมาโดยตลอดว่า การสร้างระบบการตรวจการณ์ตามชายฝั่งทะเลทั่วประเทศนั้น ก็เพื่อรับมือกับการก่อการร้าย การกระทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ การลักลอบขนส่งทางทะเล และการประมงที่มิชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น แต่ในคำสั่งเลขที่ 57 ของประธานาธิบดีเกี่ยวกับการสร้างระบบนี้ขึ้นนั้น ประโยคแรกก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การสร้างระบบดังกล่าวเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศฟิลิปปินส์ รักษาบูรณภาพเหนือดินแดน และคุ้มครองผลประโยชของประเทศ ซึ่งมีรากฐานเป็นกฏหมายว่าด้วยพรมแดนทางทะเลของฟิลิปปินส์ที่ได้ยึดครองบางเกาะในทะเลจีนใต้
Ton/Ldan