ปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ทดสอบความสามารถทางการเมืองของสหรัฐฯ
  2012-09-20 16:36:03  People's Daily

นายลีออน พาเน็ตตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนจีน กล่าวทั้งขณะพบปะกับผู้นำและตอบคำถามนักศึกษาจีนว่า สหรัฐฯไม่มีจุดยืนต่อข้อพิพาทเหนือดินแดนระหว่างจีนกับญี่ปุ่น หวังว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันใช้ความพยายามแสวงหาวิธีการแก้ปัญหา เพื่อรักษาความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

สื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเคยกล่าวไว้ว่า มาตราที่ 5 ของ "สนธิสัญญาว่าด้วยความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น" สามารถใช้กับกรณีพิพาทเกาะเตี้ยวอวี๋ ซึ่งจีนคัดค้านต่อการนี้อย่างเด็ดขาด

จีนแสดงท่าทีอย่างชัดเจนโดยหวังว่า สหรัฐฯจะไม่แทรกแซงข้อพิพาททางอธิปไตยเหนือเกาะเตี้ยวอวี๋ และไม่มีการกระทำใดๆ ที่อาจจะกระตุ้นความขัดแย้งและส่งผลให้สถานการณ์สลับซับซ้อนขึ้น ซึ่งปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋จะทดสอบความสามารถทางการเมืองของสหรัฐฯ เพราะคำกล่าวและการกระทำที่มีความละเอียดรอบคอบไม่เพียงแต่เป็นเงื่อนไขจำเป็นในการรักษาให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯพัฒนาด้วยดีเท่านั้น หากยังเป็นความรับผิดชอบที่สมควรให้ไว้เพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงภายในภูมิภาคด้วย

สหรัฐฯแสดงบทบาทสำคัญต่อสถานการณ์ความมั่นคงของเอเชียหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าเป็น "หุ้นส่วนแน่นแฟ้นที่สุด" ของญี่ปุ่น ความเป็นมาของปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋เกี่ยวข้องกับแผนการของสหรัฐฯในสมัยสงครามเย็น เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เช่นนี้ สหรัฐฯต้องแสดงบทบาทให้ดีและปฏิบัติการอย่างถูกต้องบนพื้นฐานของสภาพความเป็นจริง

เกาะเตี้ยวอวี๋เป็นดินแดนของจีนมาโดยตลอด ดังนั้น การพิทักษ์อธิปไตยเหนือดินแดนของตนเอง จีนจึงไม่เคยอ่อนข้อมาแต่ไหนแต่ไร และจะไม่แลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยปราศจากหลักการ การที่ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นเผชิญกับสถานการณ์ที่ตีงเครียด เกิดจากการท้าทายลำพังฝ่ายเดียวของญี่ปุ่น ความจริงคือญี่ปุ่นปฏิเสธต่อความเห็นร่วมกันและความเข้าใจที่จีนและญี่ปุ่นบรรลุไว้เกี่ยวกับปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ ซึ่งญี่ปุ่นต้องรับผิดชอบต่อทั้งการสร้างเรื่องและผลที่ตามมา

ถ้าสหรัฐฯต้องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมหาประเทศแบบใหม่กับจีน ก็จำเป็นต้องพิจารณาตามทิศทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลประโยชน์สำคัญที่สุดของจีน และต้องตระหนักแน่นว่า "สนธิสัญญาว่าด้วยความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น" เป็นผลที่เกิดจากสงครามเย็น จึงไม่ควรส่งผลกระทบถึงสิทธิประโยชน์ของฝ่ายที่สามรวมทั้งประเทศจีนด้วย ใครๆ ก็ตาม ถ้าแสดงท่าทีเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ ก็ไม่สามารถตักตวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวได้ และย่อมสร้างความเสียหายกับตนเองในที่สุด

Ton/feng

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
外交
v การที่เรือตรวจการณ์ของจีนไปน่านน้ำทะเลบริเวณเกาะเตี้ยวอวี๋เพื่อยับยั้งการล่วงล้ำละเมิดอธิปไตยของจีนนั้น สมเหตุสมผล 2012-09-20 15:58:55
v ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนชุมนุมกันอย่างสันติ ประท้วงญี่ปุ่น "ซื้อ" เกาะเตี้ยวอี๋ว์ 2012-09-20 13:02:28
v มาตรการแข็งกร้าวของจีนทำให้การ "ซื้อเกาะเตี้ยวอวี๋" ของญี่ปุ่นไม่มีผลทางกฎหมาย 2012-09-19 16:34:37
v สภาหอการค้ามณฑลเจ้อเจียงในอินโดนีเซียกับตัวแทนชาวจีนในอินโดนีเซียและชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีนจัดกิจกรรมเดินขบวนประท้วงญี่ปุ่นขโมยเกาะเตี้ยวอวี๋ของจีน 2012-09-19 16:20:17
v ญี่ปุ่น "ซื้อเกาะเตี้ยวอวี๋" ท้าทายระเบียบสากลหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 2012-09-19 13:03:33
v ญี่ปุ่น "ซื้อเกาะเตี้ยวอวี๋" ท้าทายระเบียบสากลหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 2012-09-19 13:03:06
v กองเรือตรวจการณ์ยังคงลาดตระเวนที่น่านน้ำเกาะเตี๊ยวอี๋ว์ 2012-09-19 11:37:11
v ชาวญี่ปุ่น 2 คนขึ้นเกาะเตี้ยวอวี๋ของจีนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 2012-09-18 17:19:11
v จีนทักท้วงญี่ปุ่นที่มีชาวญี่ปุ่นฝ่ายขวาขึ้นเกาะเตี้ยวอวี๋ 2012-09-18 16:30:01
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040