นายลีออน พาเน็ตตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนจีน กล่าวทั้งขณะพบปะกับผู้นำและตอบคำถามนักศึกษาจีนว่า สหรัฐฯไม่มีจุดยืนต่อข้อพิพาทเหนือดินแดนระหว่างจีนกับญี่ปุ่น หวังว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันใช้ความพยายามแสวงหาวิธีการแก้ปัญหา เพื่อรักษาความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
สื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเคยกล่าวไว้ว่า มาตราที่ 5 ของ "สนธิสัญญาว่าด้วยความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น" สามารถใช้กับกรณีพิพาทเกาะเตี้ยวอวี๋ ซึ่งจีนคัดค้านต่อการนี้อย่างเด็ดขาด
จีนแสดงท่าทีอย่างชัดเจนโดยหวังว่า สหรัฐฯจะไม่แทรกแซงข้อพิพาททางอธิปไตยเหนือเกาะเตี้ยวอวี๋ และไม่มีการกระทำใดๆ ที่อาจจะกระตุ้นความขัดแย้งและส่งผลให้สถานการณ์สลับซับซ้อนขึ้น ซึ่งปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋จะทดสอบความสามารถทางการเมืองของสหรัฐฯ เพราะคำกล่าวและการกระทำที่มีความละเอียดรอบคอบไม่เพียงแต่เป็นเงื่อนไขจำเป็นในการรักษาให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯพัฒนาด้วยดีเท่านั้น หากยังเป็นความรับผิดชอบที่สมควรให้ไว้เพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงภายในภูมิภาคด้วย
สหรัฐฯแสดงบทบาทสำคัญต่อสถานการณ์ความมั่นคงของเอเชียหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าเป็น "หุ้นส่วนแน่นแฟ้นที่สุด" ของญี่ปุ่น ความเป็นมาของปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋เกี่ยวข้องกับแผนการของสหรัฐฯในสมัยสงครามเย็น เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เช่นนี้ สหรัฐฯต้องแสดงบทบาทให้ดีและปฏิบัติการอย่างถูกต้องบนพื้นฐานของสภาพความเป็นจริง
เกาะเตี้ยวอวี๋เป็นดินแดนของจีนมาโดยตลอด ดังนั้น การพิทักษ์อธิปไตยเหนือดินแดนของตนเอง จีนจึงไม่เคยอ่อนข้อมาแต่ไหนแต่ไร และจะไม่แลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยปราศจากหลักการ การที่ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นเผชิญกับสถานการณ์ที่ตีงเครียด เกิดจากการท้าทายลำพังฝ่ายเดียวของญี่ปุ่น ความจริงคือญี่ปุ่นปฏิเสธต่อความเห็นร่วมกันและความเข้าใจที่จีนและญี่ปุ่นบรรลุไว้เกี่ยวกับปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ ซึ่งญี่ปุ่นต้องรับผิดชอบต่อทั้งการสร้างเรื่องและผลที่ตามมา
ถ้าสหรัฐฯต้องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมหาประเทศแบบใหม่กับจีน ก็จำเป็นต้องพิจารณาตามทิศทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลประโยชน์สำคัญที่สุดของจีน และต้องตระหนักแน่นว่า "สนธิสัญญาว่าด้วยความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น" เป็นผลที่เกิดจากสงครามเย็น จึงไม่ควรส่งผลกระทบถึงสิทธิประโยชน์ของฝ่ายที่สามรวมทั้งประเทศจีนด้วย ใครๆ ก็ตาม ถ้าแสดงท่าทีเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ ก็ไม่สามารถตักตวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวได้ และย่อมสร้างความเสียหายกับตนเองในที่สุด
Ton/feng