ร้านตัดผมของจีนจะไม่แบ่งชายหญิงเหมือนเมืองไทย ปัจจุบัน ค่าตัดผมในร้านต่ำสุด 10 หยวน ทั่วไปจะเป็น 15 หยวน 20 หยวน ตามฝีมือของช่าง แต่ถ้าเป็นช่างที่มีชื่อเสียงจะเป็น 50 หยวนอย่างเช่นคุณเจียว แน่นอน ในร้านที่มีชื่อเสียง ย่อมแพงกว่าราคานี้ วิธีสระผมแบ่งเป็นสองอย่าง สระเปียกกับสระแห้ง ถ้าสระเปียกไม่ต้องเสียเงินต่างหาก เสียค่าตัดผมก็พอ แต่ถ้าสระแห้ง แม้ต้องเสีย 10-15 หยวน แต่เขาจะแถมการนวดศรีษะ 40 นาทีให้ สระเปียกจะนอนสระบนเตียงสระผม ส่วนสระแห้งจะนั่งเก้าอี้ธรรมดาเหมือนนั่งเอียงคอสระ ถ้าย้อมสีผม จะมีหลายราคาตามยี่ห้อยาย้อมผม ตั้งแต่ 100 กว่าถึงหลายร้อยหยวน แต่ถ้าเรานำยาย้อมไป โดยทั่วไปเขาจะเก็บค่าทำอย่างน้อย 30 หยวน ถ้าบำรุงเส้นผม ใช้ครีมของเขากับครีมของเรา ราคาจะต่างกัน ใช้ของเขาคิดตามยี่ห้อ ใช้ครีมของเรา เขาจะคิดค่าทำประมาณ 10-15 หยวน
คนจีนก็ชอบย้อมสีผม หนุ่มๆ สาวๆ ชอบย้อมสีหลากหลาย ส่วนคนวัยกลางคนหรือ ผู้สูงอายุ มักจะชอบย้อมสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม คนที่มีผมหงอก ต้องไปย้อมสีเดือนหรือสองเดือนครั้ง
ส่วนร้านเสริมสวยของจีน ร้านตัดผมบางแห่งก็จัดให้มีห้องเสริมสวย บางแห่งจะเป็นร้านเสริมสวยพวกนวดหน้านวดตัวโดยเฉพาะ วิธีบริการก็มีหลากหลาย เช่น ซื้อผลิตภัณฑ์ของเขาแล้ว เขาทำให้ฟรีจนกว่าผลิตภัณฑ์หมดสิ้นไป อีกวิธีหนึ่งคือ ใช้ผลิตภัณฑ์ของเขา แต่คิดตามจำนวนครั้ง คนส่วนใกญ่จะซื้อบัตรในราคาที่ต่างกัน ทั่วไปจะเป็นขั้น 3,000 หยวน 5,000 หยวน หรือ 8,000 หยวน แต่ละราคาจะมีส่วนลดที่ต่างกัน ขั้นตอนการเสริมสวยประเภทนวดหน้านวดตัว คือ ล้างหน้า แล้วนวดหน้านวดศรีษะ ขณะที่พอกหน้าให้ความชื้นบำรุงผิวอยู่นั้น เขาจะนวดต้นคอและแขนขาให้ พอเสร็จแล้ว ก็จะทาครีมให้ แต่จะไม่ทาแป้งแต่งหน้า ร้านเสริมสวยของไทยเป็นอย่างไรคะ
สำหรับศูนย์ออกกำลังกายของชุมชน การใช้ชีวิตที่เร่งรีบยิ่งขึ้นทุกวัน ทำให้สุขภาพแย่ลงทุกที ผู้คนจึงให้ความ สำคัญกับการออกกำลังกายมากขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้น ศูนย์ออกกำลังกายก็ผุดขึ้นมาตามชุมชนต่างๆ อย่างชุมชนที่ดิฉันอยู่ก็มีแห่งหนึ่ง เปิดตั้งแต่ปีพ.ศ.2543 ปีนี้ครบ 10 ปีพอดี เดิมทีมีสถานที่ไม่ใหญ่ และอยู่ห้องใต้ดิน เนื่องจากเจ้าของเป็นนักมวยที่เคยได้รางวัล เชียวชาญเรื่องกีฬาและเลือกโค้ชมืออาชีพ ต่อมา กิจการเริ่มพัฒนาเจริญขึ้น ตอนนี้ ศูนย์ออกกำลังกายได้ย้ายไปอยู่ที่ชั้นบนของซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และได้เปิดสาขาอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนั้น ยังปรับห้องใต้ดิน ที่เดิมเป็นสถานที่ออกกำลังกายเป็นห้องเช่า และเปิดร้านนวดอีกสองแห่ง
คนที่ไปออกกำลังกายจะซื้อบัตรตามใจชอบ โดยมีบัตรประเภทนับจำนวนครั้ง บัตรรายเดือน บัตรรายไตรมาส บัตร 6 เดือน และบัตรรายปี เคยมีบัตรตลอดชีพ แต่คงไม่มีใครไปซื้อบัตรอย่างนั้น แม้ราคาถูกก็ตาม
เริ่มแรก บัตรรายปีขาย 1,200 หยวน ต่อมา ประมาณ 800 หยวน บางที อาจจะต่ำกว่าราคานี้ และยังแถมเวลาให้ด้วย เนื่องจากมีศูนย์ออกกำลังกายมากขึ้นทุกวัน ภายในศูนย์จะแบ่งเป็นหลายส่วน โดยตั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายชนิดต่าง ๆ เช่น เครื่องฝึกกล้ามเนื้อ เครื่องวิ่ง เป็นต้น โดยมีโค้ชหลายคนคอยดูแลให้ ถ้าใครมีความต้องการพิเศษ จะจ้างโค้ชส่วนตัวได้ โดยในราคาชั่วโมงละ 100 หยวน
เครื่องวิ่งของร้านนี้มีเครื่องโทรทัศน์ตั้งอยู่ทุกเครื่อง เวลาออกกำลังกายจะได้วิ่งและชมรายการทีวีไปด้วย เพิ่มความสนุกสนานให้การออกกำลังกาย ส่วนสุภาพสตรี คงชอบฝึกโยคะและเต้นรำตามจังหวะดนตรี รายการเหล่านี้มีทุกวัน แต่ส่วนใหญ่จัดในช่วงหลัง 1 ทุ่ม ส่วนเซาน่าก็มีทุกวัน แต่มักให้บริการในยามค่ำเท่านั้น
เลิกงานกลับบ้าน ไปออกกำลังกาย ให้เหงื่อออกมาอย่างเต็มที่ คุณคิดดูซิ มันสบายแค่ไหน
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงมุมหนึ่งของชุมชนจีนเท่านั้น หวังว่า จะทำให้คุณมีความรู้ความเข้าใจต่อชุมชนจีนมากขึ้น