เดือนกันยายนปี 1999 พร้อมๆ กับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน ระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจีนค่อยๆ กระเตื้องสูงขึ้น และเนื่องจากจีนได้กำหนดให้มีวันหยุดสองวันในหนึ่งสัปดาห์เป็นเวลาหลายปีแล้ว ซึ่งได้กระตุ้นการบริโภคทางสาธารณะ เสริมประสิทธิภาพด้านการทำงานให้สูงขึ้น และเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปมีเวลาผักผ่อนหย่อนใจให้มากยิ่งขึ้น จีนจึงตกลงให้เทศกาลวันหยุดสำคัญๆ เช่น วันตรุษจีน วันแรงงาน และวันชาติจีน ซึ่งสามเทศกาลดังกล่าวล้วนเป็นเทศกาลใหญ่ที่ประชาชนจีนให้ความสำคัญที่สุดได้มีวันหยุดเพิ่มขึ้นเป็นสามวัน ดังนั้นถ้ารวบวันหยุดอีกสี่วันของสุดสัปดาห์ทั้งก่อนและหลังเทศกาลเข้าด้วยกันแล้ว จึงมีวันหยุดทั้งหมด 7 วัน ซึ่งเท่ากับสัปดาห์หนึ่งแล้ว
และในอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากวันหยุดเหล่านี้ได้ส่งเสริมการอุปโภค ช่วยขยายตลาดการท่องเที่ยวและทำให้ผู้ที่ทำงานในต่างถิ่นมีเวลาวันหยุดมากขึ้น สามารถเดินทางกลับบ้านเยี่ยมครอบครัวพ่อแม่และญาติพี่น้องมากขึ้น ช่วยส่งเสริมการไปมาหาสู่กันระหว่างท้องที่ต่างๆ ภายในประเทศของจีน และก็กระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนในเวลาพร้อมกัน เช่น ช่วงเทศกาลวันชาติจีนของปี 1999 ซึ่งเป็นเทศกาลที่หยุดยาวถึง 7 วันครั้งแรกของจีน เพียงในช่วง 7 วันเท่านั้น ทั่วประเทศของจีนได้รองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนถึง 28 ล้านคน และรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นเงิน 14,100 ล้านหยวน ซึ่งเป็นตัวเลขเกินความคาดหมาย บุคคลในแวดวงการท่องเที่ยวต่างคาดไม่ถึง และต่อมาในเทศกาลตรุษจีนของปี 2000 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวครั้งที่สองนั้น นักท่องเที่ยวในประเทศจีนได้มีจำนวนกว่า 20 ล้านคน เพิ่มมากกว่าปีที่แล้ว 10% ค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศของจีนเป็นจำนวน 16,300 ล้านหยวน ซึ่งได้กระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจในท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศของจีนเป็นอย่างมาก ทำให้ไม่ว่าพ่อค้าแม่ค้า หรือเจ้าหน้าที่ควบคุมบริหารงานด้านเศรษฐกิจต่างรับรู้ว่า เศรษฐกิจในช่วงเทศกาลไม่เพียงแต่ได้ขยายความต้องการภายในประเทศของจีนเท่านั้น หากยังสามารถกระตุ้นการบริโค ซึ่งเป็นการปฏิวัติต่อแนวความคิดด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน เป็นโอกาสที่หาเงินหาทองได้จริงๆ ด้วยเหตุนี้ จึงเรียกว่า สัปดาห์ทอง
และถึงสัปดาห์ทองของตรุษจีนปี 2006 ทั่วประเทศจีนได้รองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวน 78.32 ล้านคน มีรายได้จากการ่องเที่ยวคิดเป็นเงิน 36,800 ล้านหยวน