วันนี้ (วันที่ 15 พฤศจิกายน) การประชุมผู้นำ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และการประชุมผู้นำอาเซียนกับคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ครั้งที่ 21 จะจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในโอกาสนี้ นางหยาง ซิ่วผิง เอกอัครราชทูตจีนประจำอาเซียนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างจีน-อาเซียนประสบความสำเร็จมาก จากนี้ไป จะต้องขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์ให้ขึ้นสู่ระดับที่สูงยิ่งขึ้น
นางหยาง ซิ่วผิงกล่าวว่า ตั้งแต่มีการสร้างความสัมพันธ์คู่การเจรจาระหว่างจีน-อาเซียนเมื่อปี 1991 เป็นต้นมา ด้วยการใช้ความพยายามร่วมกันของผู้นำ และวงการต่างๆ ของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ จึงพัฒนาเจริญขึ้น จนครอบคลุมทุกด้าน และทุกระดับ
นางหยาง ซิ่วผิงยังกล่าวว่า จีนได้สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือกับทุกประเทศในอาเซียน และเป็นประเทศแรกที่สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับอาเซียน ปัจจุบัน จีนและอาเซียนมีความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ กว่า 20 ด้าน เช่น เศรษฐกิจ การค้า การเกษตร การคมนาคม และการช่วยเหลือผู้ยากจน ขณะนี้ ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายกำลังบุกเข้าสู่ด้านการเงิน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง อุตสาหกรรมสีเขียว และกิจการทางทะเล นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การต่อต้านยาเสพติด และการป้องกันโรคระบาด ซึ่งได้แสดงบทบาทสำคัญในการพิทักษ์ความมั่นคงของทั้งจีนและอาเซียน อีกทั้งทั่วภูมิภาคนี้ด้วย
ขณะกล่าวถึงอนาคตแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-อาเซียน นางหยาง ซิ่วผิง กล่าวว่า ในวันข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายต้องส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ให้มีระดับที่สูงขึ้นและมีความมั่นคงมากขึ้น เพื่อสร้างคุณูปการต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้
นางหยาง ซิ่วผิง กล่าวว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ต้องเพิ่มความเชื่อถือระหว่างกันให้มากขึ้น รักษาแนวโน้มการไปมาหาสู่กันระหว่างผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่าย และถืออีกฝ่ายหนึ่งเป็นหุ้นส่วนที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และเชื่อถือได้ จีนและอาเซียนยังต้องขับเคลื่อนความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม สร้างสรรค์เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนต่อไป พยายามใช้นโยบายให้สิทธิพิเศษอย่างเต็มที่ ส่งเสริมความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ให้วิสาหกิจในสาขาต่างๆ และภาคเอกชนเป็นองค์ประกอบหลักของเขตการค้าเสรี และพยายามให้บรรลุเป้าหมายยอดมูลค่าการค้า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนสิ้นปี 2015 นอกจากนี้ จีนและอาเซียนต้องกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยว เยาวชน และสื่อมวลชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองฝ่ายต่อไป (TON/cai)