หลายวันมานี้ การปะทะระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมาร์กับกองกำลังคะฉิ่นนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น สื่อทั่วโลกต่างพากันติดตามรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ หนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ซึ่งเป็นสื่อของทางการเมียนมาร์ฉบับวันที่ 7 ตีพิมพ์บทความประนามกองกำลังเอกราชคะฉิ่นที่ได้ก่อเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงต่างๆ เช่น โจมตีรถบรรทุกสินค้า ลักพาตัวสตรี ทำลายทางหลวง ทางรถไฟ และสะพาน ส่วนทางด้านกองกำลังคะฉิ่นกล่าวกับสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองกำลังเอกราชคะฉิ่นโดนปืนใหญ่ยิงอีกครั้ง นักวิเคราะห์เห็นว่า การปะทะระหว่างกองทัพรัฐบาลกับชนเผ่าน้อยของเมียนมาร์มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งในอดีตและปัจจุบัน จึงคงยากที่จะแก้ไขความขัดแย้งกันได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา โฆษกกองกำลังเอกราชคะฉิ่นประกาศคำแถลงผ่านสำนักข่าวเอพีว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ทหารรัฐบาลใช้ปืนใหญ่โจมตีเขตหล่าจ่าหย่าง ซึ่งเป็นด่านหน้าของศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพเอกราชคะฉิ่น แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนักทั้งด้านบุคคล และทรัพย์สิน โฆษกผู้นี้ยังกล่าวว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ที่รัฐบาลทหารเมียนมาร์โจมตีเขตหล่าจ่าหย่างนับตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม กองกำลังเอกราชคะฉิ่นไม่ได้โต้ตอบ ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของทางการเมียนมาร์ที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อผู้หนึ่งปฏิเสธการกล่าวหาของกองกำลังเอกราชคะฉิ่น
การปะทะระหว่างทหารรัฐบาลกับกองกำลังคะฉิ่นทำให้กองกำลังของชนเผ่าน้อยอื่นๆ ในเมียนมาร์รู้สึกหวั่นเกรง ผู้สันทัดกรณีเผยว่า ขณะนี้ กองกำลังรัฐว้า ซึ่งเป็นกองกำลังชนเผ่าน้อยที่มีขนาดใหญ่สุดในเมียนมาร์กำลังทำการซ้อมรบในเขตที่ติดกับพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองทัพรัฐบาล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา โฆษกกองกำลังรัฐฉานกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งใดๆ ที่จะบ่งชี้ว่า กองทัพรัฐบาลจะรุกโจมตีกองกำลังของชนเผ่าน้อยอื่นๆ กองกำลังชนเผ่าน้อยมีความเข้มแข็งต่ำกว่ากองทัพรัฐบาล จึงไม่ต้องการปะทะกับกองทัพรัฐบาล และอยากให้แก้ไขปัญหาด้วยวิถีการเมือง อย่างไรก็ตาม กองกำลังรัฐฉานเตรียมพร้อมแล้ว เพื่อรับมือกับการรุกโจมตีจากกองทัพรัฐบาล ที่อาจเกิดขึ้น
หลายสิบปีมานี้ รัฐบาลเมียนมาร์ได้ทำข้อตกลงสันติภาพกับกองกำลังชนเผ่าน้อยต่างๆ หลายฉบับ แต่การปะทะระหว่างกันยังคงเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า สื่อมวลชนเมียนมาร์รายงานว่า กองกำลังชนเผ่าน้อยบางกลุ่มเห็นว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการสร้างความปรองดองแห่งชาติ กองกำลังชนเผ่าน้อยบางกลุ่มยังเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อได้สิทธิ์ปกครองตนเองอย่างเต็มที่ แต่ความต้องการของกองกำลังชนเผ่าน้อยดังกล่าวขัดกับจุดยืนของรัฐบาลอย่างมาก สื่อมวลชนเห็นว่า รัฐบาลต้องเร่งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างชนเผ่าต่างๆ ให้มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในเขตชนเผ่าน้อย เป็นเช่นนี้แล้ว จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาชนเผ่าน้อยได้โดยสิ้นเชิง
(YIM/cai)