ความจริง มีมะเร็งเพียงส่วนน้อยมากที่จะกลายเป็นมะเร็งในระยะต่อมาหรือถูกตรวจวินิจฉัยออกมาก แต่มะเร็งส่วนใหญ่ถูกพบเห็นขณะชันสูตรพลิกศพ ซึ่งผู้เสียชีวิตเหล่านี้ไม่ได้เสียชีวิตเพราะมะเร็ง กระทั่งไม่เคยเกิดอาการใดๆที่ต้องหาหมอทำการตรวจวินิจฉัยมะเร็งด้วย อย่างเช่นหลังการชันสูตรพลิกศพพบว่า มีประมาณ 33% เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่เพียง 1% ตายเพราะมะเร็งนั่นเอง ผู้ชายที่อายุมากกว่า 75 ปีมีประมาณ 50% จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่มีเพียง 2% ตายเพราะโรคนี้ ดังนั้น มีนักวิทยาศาสตร์เรียกร้องว่า อย่าดำเนินการรักษาผู้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่มีอายุมากกว่า 75 ปี เพราะการรักษาจะทำร้ายร่างกายมากกว่าการไม่รักษา ซึ่งเมื่อถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งแล้วรักษาทันที จะมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากขึ้น
มีมะเร็งเพียงส่วนน้อยมากที่กลายเป็นเนื้อร้ายหรือถูกตรวจวินิจฉัยออกมาก
แต่ก็คงยากที่จะให้เรายอมรับว่า มะเร็งไม่ใช่โรค หรือเป็นเพียงสภาพที่ไม่เป็นปกติอย่างหนึ่งของร่างกายเท่านั้น แต่เมื่อเราถือว่า มะเร็งเป็นโรค ก็จะพยายามต่อต้านกับมะเร็งจากทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนอารมณ์ด้วย ดังนั้น ไม่ว่าชาวอเมริกัน ชาวยุโรปหรือชาวเอเชีย เมื่อเป็นมะเร็งแล้ว ขั้นตอนการรักษาก็คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือ ผ่าตัด แล้วฉีดยาเคมีบำบัดหรือฉายรังสีรักษา ผู้ป่วยเชื่อว่า "มะเร็งเป็นฆาตกร แต่การรักษาจะไม่ใช่" สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งต้องรับการฉีดยาเคมีบำบัดหรือการฉายแสง ซึ่งล้วนเป็นพิษและทำลายร่างกายอย่างร้ายแรง และยังต้องหวังว่าจะรักษาให้หายดี คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ยาเคมีบำบัดมะเร็งเป็นยาพิษล้วนๆ ยาเหล่านี้จะทำให้ผู้ป่วยอาเจียน ผมร่วง เกิดแผลในช่องปาก โลหิตจาง ภูมิต้านทานลดต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนหลายพันล้าน ทำให้ทุกส่วนในร่างกายถูกทำลาย จนทำให้ผู้ป่วยอ่อนแอ ขณะเดียวกัน แพทย์จะสั่งยาเพิ่มอีกหลายชนิดจนเกิดผลข้างเคียงมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ป่วยไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีความสุขและหมดความอาลัยตายอยากด้วย และที่สำคัญคือ มีมะเร็ง 96-98% ใช้ยาเคมีบำบัดไม่ได้ผล แต่จะทำลายระบบภูมิต้านทานและอวัยวะสำคัญๆ จนทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคตับ โรคลำไส้ โรคติดต่อและโรคสมองเสื่อม ตลอดจนแก่เร็ว
มะเร็งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิต้านทาน
ดังนั้น จึงควรเข้าใจได้ว่า มะเร็งไม่ใช่โรค แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิต้านทาน เพราะคือการกระตุ้นระบบภูมิต้านทานให้รักษาขีดความสามารถป้องกันเชื้อไวรัส และทำความสะอาดภายในร่างกาย ระบบภูมิต้านทานจะใช้เซลล์มะเร็งมานำหน้าที่นี้ ให้เซลล์เหล่านี้รวมกันจนเป็นเนื้องอกขึ้น เพราะทำเช่นนี้สามารถทำให้ล่อสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งและของเสียที่เกิดขึ้นในร่างกายออกจากน้ำเหลืองและเลือดมารวมอยู่ที่เดียวกัน จนห่างไกลจากหัวใจ สมองและอวัยวะสำคัญๆ ดังนั้น การฆ่าเซลล์มะเร็ง จะส่งผลร้ายต่อทั่วทั้งร่างกาย
