ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 เป็นต้นมา เขตบริเวณรอบข้างของเหมืองทองแดงเลตปาด็องท็องตาวง์เกิดการประท้่วงขนาดใหญ่ โดยประท้วงว่าการให้ค่าชดเชยไม่ยุติธรรมและก่อมลภาวะด้วย ด้วยเหตุนี้ การก่อสร้างจึงต้องยุติลงทั้งหมด ต่อมา รัฐบาลเมียนม่าร์จัดตั้งคณะกรรมการสำรวจโดยมีนางออง ซาน ซู จีหัวหน้าสันนิบาตประชาธิปไตยทั่วประเทศเมียนม่าร์เป็นประธานคณะกรรมการ ข่าวล่าสุดรายงานว่า วันที่ 23 มกราคม คณะกรรมการดังกล่าวจะยื่นรายงานการสำรวจ ซึ่งจะมีการประเมินเหมืองทองแดงแห่งนี้ว่าสอดคล้องกับมาตรฐานสากลหรือไม่ รวมถึงประเมินว่าได้ใช้เทคโนโลยีที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือไม่และมีผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างไร รายงานนี้จะมีผลสรุปที่เป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด
นายเกิ่ง อี ผู้จัดการใหญ่บริษัทกิจการทองแดงว่านป่าวเมียนม่าร์กล่าวถึงการประท้วงครั้งนี้ว่า บริษัทว่านป่าวขอให้การสำรวจเป็นไปอย่างยุติธรรม หวังให้กรณีนี้เป็นธุรกิจที่ถูกต้อง เพราะได้ปฏิบัติตามสัญญาที่จีนและเมียนม่าร์ลงนามไว้ตามกฎหมาย หากบริษัทจีนปฏิบัติตามสัญญา แต่ทางรัฐบาลเมียนม่าร์ยกเลิกโครงการ ผลกระทบตามมาก็คือจะทำลายบรรยากาศการลงทุนของเมียนม่าร์อย่างหนักหน่วง
แหล่งข่าวแจ้งว่า เหมืองทองแดงเลตปกด็องท็องใช้กรรมวิธีถลุงทองแดงชื้นที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สุดในปัจจุบัน สามารถควบคุมผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตต่อสิ่งแวดล้อม สามารถลดมลภาวะที่มีต่ออากาศเมื่อเทียบกับกรรมวิธีถลุงร้อนที่ใช้ในสมัยก่อน ส่วนการใช้ที่ดิน บริษัทจีนได้ใช้มาตรฐานที่กำหนดโดยทางการท้องถิ่นและได้รับการอนุมัติจากผู้นำระดับสูงของรัฐบาลเมียนม่าร์ ส่วนค่าชดเชย บริษัทของจีนปฏิบัติตามหลักการที่ให้ค่าชดเชยตามมาตรฐานสูงเต็มที่ และได้จ่ายค่าชดเชยการใช้ที่ดินที่สูงกว่ามาตรฐานของเมียนม่าร์หลายเท่าตัว
Ying/Dan