คำแถลงฉบับนี้ระบุว่า ปฏิบัติการของจีนจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการนำข้อพิพาทเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ขึ้นสู่ศาลสากล ซึ่งฟิลิปปินส์ยื่นขอพิจารณาตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา และกระบวนการพิจารณาจะดำเนินการตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลภาคผนวกที่ 7 ต่อไป ไม่ว่าฝ่ายจีนจะเข้าร่วมหรือไม่ ก็จะจัดตั้งคณะอนุญาโตตุลาการที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน
นายหม่า เค่อชิง เอกอัครราชทูตจีนประจำฟิลิปปินส์กล่าวระหว่างการนัดพบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ว่า จีนหวังว่าฟิลิปปินส์จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาว่าด้วยการไม่ใช้ปฏิบัติการใดๆ ที่ทำให้สถานการณ์สลับซับซ้อนมากขึ้นและขยายขอบเขต กว้างขึ้น อีกทั้งควรให้การตอบรับอย่างแข็งขันต่อข้อเสนอของฝ่ายจีนเกี่ยวกับการสร้างกลไกปรึกษาหารือเพื่อแก้ปัญหาทางทะเล และกลไกเกี่ยวกับการสร้างความเชื่อถือต่อกันระหว่างสองประเทศ เพื่อกลับเข้าสู่ครรลองการแก้ปัญหาด้วยการเจรจราในเร็ววัน
ในวันเดียวกัน นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวชี้ว่า การจัดการข้อพิพาทควรให้ประเทศคู่กรณีจัดการเอง ซึ่งเป็นความรับรู้ร่วมกันของประเทศอาเซียนที่ร่วมกันลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีต่างๆ ในทะเลจีนใต้ การประกาศแจ้งของฝ่ายฟิลิปปินส์เกี่ยวกับข้อพิพาทกับจีนนั้น มิเพียงแต่ฝ่าฝืนปฏิญญาดังกล่าวเท่านั้น หากยังเป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรงทั้งด้านกฎหมายและภาคปฏิบัติ อีกทั้งเป็นการประณามจีนโดยไม่ตรงกับความเป็นจริง จีนจึงคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยว