ธุรกิจในเมืองเฉิงตูที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากบริษัทต่าง ๆ ได้แก่ อุตสาหกรรม IT ภาคการเงินและภาคบริการ สำหรับอุตสาหกรรมที่เฉิงตูให้ความสำคัญและมุ่งผลักดันในการลงทุน คือ อุตสาหกรรมนิวไฮเทค อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและรถยนต์ อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เป็นต้น ซึ่งเฉิงตูเป็นเมืองที่มีข้อได้เปรียบด้านสภาพแวดล้อมการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ แรงสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม การคมนาคมทางโลจิสติกส์ และศูนย์รวมของบุคลากร นอกจากนั้น ยังได้มีการดำเนินนโยบายสนับสนุนการลงทุนในเฉิงตูด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาเฉิงตูตามนโยบายพัฒนาแผ่นดินจีนตอนในเชิงลึก การได้รับการอนุมัติให้ก่อตั้งเขตเศรษฐกิจเฉิงตู-ฉงชิ่ง และสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่เขตเทียนฝู ซึ่งเป็นปัจจัยทางบวกต่อการดึงดูดนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ทางการเฉิงตูจึงเชื่อมั่นว่า ปีนี้จะสามารถดึงดูดบริษัททั้งภายในประเทศและต่างประเทศเข้ามาลงทุนในเฉิงตูเพิ่มมากขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว สื่อมวลชนฮ่องกงมีการประกาศ 17 เขตเศรษฐกิจในจีนที่นักลงทุนชาวฮ่องกงให้ความสนใจสูงสุด โดยเมืองเฉิงตู สามารถคว้ามาได้ 2 เขต ได้แก่ เขตพัฒนาเทคโนโลยีนิวไฮเทค และเขต จิ่นเจียง นอกจากนี้ ยังมีเขตตงเฉิง ในกรุงปักกิ่ง เขตเศรษฐกิจใหม่ปินไห่ ในนครเทียนจิน และเขตอื่นๆ รวมอยู่ด้วย
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมโดดเด่นในเขตพัฒนาเทคโนโลยีนิวไฮเทคของเมืองเฉิงตูได้แก่ ข้อมูลอิเล็คทรอนิกส์ ชีวเวชกรรม และการผลิตเครื่องจักรกลที่ใช้ความแม่นยำ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมของเขตนี้คิดเป็น 10% ของเศรษฐกิจเมืองเฉิงตู
ปีหลังๆ นี้ ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจไทยเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและการค้าของเมืองเฉิงตู จึงเร่งประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมและด้านอื่นๆ ของประเทศไทยที่เมืองแห่งนี้ เพื่อช่วยให้ประชาชนของเมืองนี้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น เฉพาะปีที่แล้วปีเดียว หน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจไทยได้ร่วมกันจัดกิจกรรมหลายครั้งที่เมืองเฉิงตู เช่น ระหว่างวันที่ 29 กันยายน -3 ตุลาคม ปี 2012 มีการจัด "งานเทศกาลไทย ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ณ เมืองเฉิงตู โดยหัวข้อหลักในการจัดงานครั้งนี้คือ "มหัศจรรย์ไทยแลนด์ 2012 " ภายในงาน มีการออก ร้านแสดงสินค้าของไทยที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมและมีศักยภาพที่จะเติบโต
ในตลาดเมืองเฉิงตู อาทิ อัญมณี เครื่องประดับ สินค้าสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหาร ของตกแต่งบ้าน งานศิลปะหัตถกรรม
ปัจจุบัน ไทยกลายเป็นประเทศที่เป็นที่รู้จักของชาวเมืองเฉิงตูมากขึ้น วัฒนธรรม ขนบประเพณี อาหารและด้านอื่นๆ ของไทยล้วนได้รับความสนใจจากประชาชนเมืองนี้ ทั้งนี้เห็นได้จากนักศึกษาจีนที่สนใจในวิชาภาษาไทยในเมืองนี้ในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นักศึกษาที่เรียนในวิชาภาษาไทยส่วนใหญ่บอกผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ตนเลือกเรียนภาษาไทย ก็เพราะว่า ชื่นชอบวัฒนธรรมไทย และคาดหวังที่จะทำงานโดยใช้ภาษาไทย นอกจากนี้ อยากได้มีโอกาสสัมผัสกับประเทศไทย ไปเที่ยวประเทศไทย รวมถึงชมละครไทย ภาพยนตร์ไทย
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ร้านอาหารไทยในเมืองเฉิงตูได้รับความนิยมจากประชาชนในเมืองแห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างสูง ร้านอาหารไทยแทบทุกร้านมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ลูกค้าที่เคยไปใช้บริการส่วนใหญ่ชมว่า อาหารไทยอร่อย มีคุณสมบัติบำรุงสุขภาพ ลูกค้าบางรายยังขอซื้อแฟรนไชส์เพื่อเปิดสาขาทั้งในเมืองนี้และเมืองอื่น
เจ้าของร้านอาหารไทยในเมืองเฉิงตูส่วนใหญ่สั่งซื้อวัตถุดิบจากไทย ผ่านทางเมืองกวางโจว และเมืองคุนหมิง มีการคิดค้นนำเสนอเมนูใหม่ๆ ต่อลูกค้าเสมอ นอกจากนี้ การตกแต่งร้านโดยใช้สถาปนิกไทย ทำให้ได้บรรยากาศแบบไทยที่ลูกค้าชื่นชอบ
สำหรับเมนูของร้านอาหารไทยที่ได้รับความนิยมมีหลายๆ ชนิดเช่น ต้มยำกุ้ง ปลานึ่งมะนาว ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาราดพริก รวมทั้งปูผัดผงกะหรี่ ส่วนของหวาน ข้าวเหนียวมะม่วงได้รับความนิยมมากที่สุด โดยร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ใช้ข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวไทยที่มีราคาแพงกว่าข้าวท้องถิ่น เพื่อรักษามาตรฐานอาหารไทย
เมื่อเร็วๆ นี้ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในการสัมมนา "เฉิงตู เมืองคู่มิตรกับอนาคตปี 2020" ว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายของประชาชน และขยายโอกาสการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยหนึ่งในนี้ คือ การผูกสัมพันธ์ระดับท้องถิ่นกับเมืองเฉิงตู มลฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน นายธานินทร์ สุภาแสน ยังกล่าวว่า เมื่อมีเส้นทาง R3a เกิดขึ้น เชื่อมไทยกับจีน จึงเป็นโอกาสอันดีที่ควรจะมองลู่ทางการค้าขาย และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างเชียงใหม่กับเมืองเฉิงตูซึ่งมีลักษณะการดำเนินชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีคล้ายกัน โดยสินค้าที่มีลู่ทางอนาคตสดใสคือสินค้าเกษตร ศิลปหัตถกรรม ผ้าทอ ไม้แกะสลัก เป็นต้น
ปัจจุบัน จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 3 เมือง ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ เมืองชิงเต่า และนครฉงชิ่ง