นักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า ปัจจุบัน รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารอย่างมากเป็นประวัติการณ์ โดยต้องการให้การแก้ไขปัญหานี้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่า ด้วยบทบาทและกลไกภาครัฐที่มีประสิทธิภาพสูง ปัญหาความปลอดภัยด้านอาหารในจีนคงสามารถได้รับการแก้ไขโดยสิ้นเชิงในระยะเวลาอันสั้น

หลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้คุมเข้มเรื่องความปลอดภัยของอาหารอีกขั้นหนึ่ง โดยมีการเพิ่มมาตรการกำกับดูแลเรื่องนี้ เช่น เมื่อปลายปีที่แล้ว ทางการนครเซี่ยงไฮ้ประกาศว่า ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารที่ไม่ปลอดภัยจะถูกขึ้นบัญชีดำ ซึ่งจะถูกห้ามทำธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหาร และถูกตัดสิทธิพิเศษต่างๆ ตามนโยบายช่วยเหลือภาคธุรกิจของรัฐบาล พฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคยังรวมถึง การเก็บสินค้าอาหารด้วยสารที่ไม่สามารถรับประทานได้ หรือวัตถุอันตราย ซึ่งผู้บริหารของบริษัทจะต้องรับผิดชอบ

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนประจำปีชุดที่ 12 เห็นชอบแผนปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาล ตามแผนดังกล่าว จีนได้จัดตั้งสำนักงานกำกับดูแลอาหารและยาแห่งชาติ หน่วยงานนี้มีอำนาจหน้าที่เบ็ดเสร็จในการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านอาหารและยา จะกำกับดูแลทุกขั้นตอน ทุกห่วงโซ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านอาหารและยา เช่น การปลูก การผลิต การขนส่ง และการวางจำหน่าย ทั้งนี้เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารและยาที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา สื่อจีนรายงานว่า ตลอดปี 2012 ที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินคดีกับการผลิตหรือจำหน่ายสินค้าอาหารและยาที่มีปัญหากว่า 8,000 รายการ

นายหวาง เฟิง รองหัวหน้าสำนักงานของคณะกรรมการจัดทำแผนโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาลกลางให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จากการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาลครั้งนี้ กลไกการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านอาหารเกิดการเปลี่ยนแปลงจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐบาลหลายหน่วยงานกลายเป็นความร่วมมือระหว่างแผนกภายในหน่วยงานเดียว ซึ่งเป็นการยกเลิกกลไกให้หลายหน่วยงานร่วมกันกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหาร ก่อนหน้านี้ อำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานในส่วนการกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหารมีความทับซ้อนกันมาก และขาดความชัดเจน หลังปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานที่กำกับดูแลความปลอดภัยของอาหารเหลือเพียงหน่วยงานเดียว ซึ่งมีขอบเขตอำนาจหน้าที่ชัดเจน ทั้งนี้ได้สร้างความสะดวกให้แก่ทั้งวิสาหกิจผลิตอาหาร ยา และผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

การจัดตั้งสำนักงานกำกับดูแลอาหารและยาแห่งชาตินั้นได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วไป นายหวาง จูนจิน สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 12 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ แต่ละหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลความปลอดภัยอาหารมีมาตรฐานต่างกันและสลับซับซ้อนมาก ทำให้วิสาหกิจผลิตอาหารไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะถูก ปัจจุบัน สำนักงานใหญ่การกำกับดูแลอาหารและยามีอำนาจหน้าที่เบ็ดเสร็จ และมีมาตรฐานเดียวในการกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหาร ทำให้วิสาหกิจผลิตอาหารมีความชัดเจนว่า อะไรเป็นสิ่งที่ควรทำ และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ นอกจากนี้ ยังไม่ต้องกังวลใจเรื่องถูกหลายหน่วยงานผลัดกันตรวจสอบอีก ทั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อการกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน นายจง หนานซาน สมาชิกสภาผู้แทนประชาชน สมาชิกของสภาวิศวกรรมแห่งชาติจีน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กลไกการกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหารมีปัญหา ทำให้ขั้นตอนการกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหารมีจุดบอด การปรับปรุงกลไกการกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหารครั้งนี้ถูกทางแล้ว อย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ยังต้องรอดูกันต่อไป