เดือนมกราคม – สามมณฑลทางภาคอีสานของจีน
เดือนมกราคมเป็นเดือนที่หนาวที่สุดของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 มณฑลทางภาคอีสานของจีน (ได้แก่มณฑลเฮยหลงเจียง มณฑลจี๋หลิน และมณฑลเหลียวหนิง) ถือเป็นแถบหนาวที่สุดของจีน โดยในเดือนมกราคมจะมีอุณหภูมิต่ำสุดระหว่าง -20~-30 องศาเซียลเซียส ไม่ว่าต้นไม้ หลังคา หรือแม่น้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง จึงกลายเป็นสีสีขาวทั้งหมด เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศพิเศษเช่นนี้ของที่นี่ เดือนมกราคมจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากที่สุด
เมืองฮาร์บินเป็นเมืองเอกของมณฑลเฮยหลงเจียง มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และได้สมญานามว่า "ปารีสของโลกตะวันออก" ที่นี่มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่สไตล์ยุโรปที่สวยงาม มีเทศกาลโคมไฟน้ำแข็งที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศจีน มีสนามสกีที่มีคุณภาพสูง และมีขนมอร่อยอีกด้วย เช่น ไส้กรอกแดง ขนมปังรัสเซีย เป็นต้น
เดือนกุมภาพันธ์ – มณฑลไห่หนาน
ในเดือนกุมภาพันธ์ จีนกำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ แต่อากาศของท้องที่ต่างๆ ส่วนใหญ่ยังหนาวอยู่ เพื่อหลีกหนีความหนาวเย็นเช่นนี้ และยังได้สัมผัสกับบรรยากาศที่คึกคัก ในเดือนกุมภาพันธ์ ชาวจีนทางภาคเหนือนิยมไปเที่ยวทางภาคใต้กันอย่างมาก และมณฑลไห่หนานก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงนี้
มณฑลไห่หนานเป็นมณฑลทางภาคใต้สุดของแผ่นดินใหญ่จีน แถมยังเป็นมณฑลที่มีแผ่นดินน้อยที่สุดอีกด้วย แต่มีพื้นที่น่านน้ำมากที่สุดของจีน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศที่นี่ยังไม่ร้อนมาก มีแดดดี ลมเย็นสบาย ทะเลสีสดใส อาหารทะเลหลากหลายอย่าง และมีทิวทัศน์ธรรมชาติงดงาม ชาวจีนจึงนิยมไปเที่ยวที่นี่ในช่วงตรุษจีนเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
เดือนมีนาคม - ท้องที่ต่างๆ ทางภาคใต้ของแม่น้ำแยงซี
ในเดือนมีนาคม เมืองภาคเหนือของจีนส่วนใหญ่ยังมีหิมะตก อากาศหนาว และต้นไม้ก็ยังไม่ผลิใบไม้ใหม่ แต่ในเมืองต่างๆ ทางภาคใต้ของแม่น้ำแยงซี หรือภาษาจีนเรียกสั้นๆ ว่า ภาค "เจียงหนาน" กลับมีบรรยากาศฤดูใบไม้ผลิกันแล้ว โดยจะมีอากาศอบอุ่น และทิวทัศน์สวยงาม ดังนั้น ตั้งแต่สมัยโบราณจีนก็มีกวีจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้กล่าวถึงความงดงามของฤดูใบไม้ผลิในเจียงหนาน ต่อมาสมัยราชวงศ์ชิง เจียงหนานยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ของจักรพรรดิเฉียนหลงทรงโปรดปรานที่สุดอีกด้วย
เมืองหางโจว และเมืองซูโจว - เมืองหางโจวเป็นเมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่ติดอันดับ 1 ใน 6 ของจีน โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,200 ปี และมีทัศนียภาพที่สวยสดงดงาม เมื่อ 700 กว่าปีก่อน เมื่อมาโคโปโล นักเดินทางผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลีแวะมายังเมืองหางโจวได้เขียนบันทึกชื่นชมไว้ว่า "เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและสวยงามที่สุดในโลก"
ส่วนเมืองซูโจวเป็นเมืองที่มีความสวยงามไม่น้อยกว่าเมืองหางโจว ที่นี่มีประวัติศาตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปีเช่นกัน และได้สมญานามว่า "เมืองแห่งสาวงาม" นอกจากมีอากาศชุ่มชื้น อุณหภูมิเย็นสบาย แล้วยังมีดอกโบตั๋นหลากหลายสีอีกด้วย และที่นี่ยังขึ้นชื่ออย่างยิ่งในเรื่องสวนโบราณของจีน โดยมีโครงสร้างสวนที่พิเศษไม่เหมือนใคร
สองเมืองนี้ยังได้สมญานามว่า "สวรรค์แห่งโลกมนุษย์"
Ying/Ldan