เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวของงานแสดงสินค้านำเข้าส่งออกกวางโจวครั้งที่ 113 นายหลิว เจี้ยนจุน ผู้แถลงข่าวในงานระบุว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินเมื่อปี 2008 เป็นต้นมา ความต้องการของประเทศที่พัฒนาแล้วลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่การที่จีนเพิ่มการชวนมาลงทุนในตลาดที่เกิดใหม่ทำให้การส่งออกของจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวได้ว่าขณะนี้ตลาดที่เกิดใหม่ได้กลายเป็นช่องทางสำคัญในการรักษาการเติบโตอย่างมั่นคง
ตัวเลขสถิติระบุว่า ปี 2012 ที่ผ่านไป ตลาดที่มีมาช้านานอย่างยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่นมีสัดส่วนทางการค้าต่างประเทศของจีนเมื่อเทียบกับปี 2011 ลดลงร้อยละ 2.1 แต่การค้าของจีนที่มีต่อตลาดที่เกิดใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน รัสเซียและแอฟริกาใต้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 โดยเติบโตขึ้นร้อยละ 20
นายหลิว เจี้ยนจุนคาดว่า เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจทั่วไปของประเทศที่เกิดใหม่มีความมั่นคง อีกทั้งช่วงเวลาจัดงานแสดงสินค้านำเข้าส่งออกกวางโจวพอดีตรงกับฤดูกาลสั่งซื้อสินค้าของทวีปอเมริกาใต้และประเทศแอฟริกา ซึ่งเห็นได้จากพ่อค้าที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าครั้งนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น พ่อค้าจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีกลุ่มประเทศบริคส์เป็นตัวแทนจะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง
เดือนมีนาคมปีนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเลือกรัสเซียเป็นประเทศแรกในการเยือนหลังจากเข้าดำรงตำแหน่ง หลังจากนั้นได้ไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของประเทศบริคส์ที่แอฟริกา เพื่อแสดงความปรารถนาที่จะกระชับความร่วมมือให้ลงลึก
ในงานแสดงสินค้าการนำเข้าส่งออกกวางโจวครั้งนี้ ฝ่ายจัดงานยังใช้วิถธีการชักชวนมาลงทุนอย่างละเอียดที่เจาะจงต่อกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะ 5 ประเทศในกลุ่มบริคส์ นอกจากนั้นยังจัดตั้งกลไกส่งเสริมการค้าเป็นครั้งแรก โปรโมทให้นักธุรกิจของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่เกิดใหม่เข้าร่วมงาน และเชิญชวนผู้ค้าจำนวนมากขึ้นเข้าร่วมงานเพื่อสั่งซื้อสินค้า ทั้งยังเลือกรัสเซียเป็นประเด็นสำคัญในเวทีอภิปรายของตลาดระหว่างประเทศ