คำแถลงของเกาหลีเหนือระบุว่า หากเกาหลีใต้ใช้นโยบายเดิมกับเกาหลีเหนือต่อไป ก็ไม่มีวันที่จะจัดการเจรจาระหว่างสองฝ่าย และกล่าวว่า เกาหลีมใต้ร่วมกับสหรัฐฯ หมายจะขัดขวางกระขวนการบุกเบิกอวกาศและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อีกทั้งจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่บนคาบสมุทรเกาหลีโดยใช้อาวุธทันสมัยด้วย ซึ่งเป็นการวางแผนก่อสงคราม ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการเจรจาหรือหาทางอื่นเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย
เกี่ยวกับปัญหาปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี คำแถลงระบุว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ล้วนไม่ควรถือการส่งดาวเทียมและการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นเงื่อนไขบังคับของการเจรจา เกาหลีเหนือไม่มีวันจะเข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ และย้ำว่า หากเกาหลีใต้ประสงค์ที่จะเจรจากับเกาหลีเหนืออย่างจริงจัง ควรหยุดพฤติกรรมทำลายศักดิ์ศรีของเกาหลีเหนือและหยุดการซ้อมรบที่มุ่งก่อสงครามรุกรานโดยสิ้นเชิง อีกทั้งต้องสัญญาว่าจะไม่ใช้ปฏิบัติการที่ถือเกาหลีเหนือเป็นปรปักษ์ต่อไป นอกจากนี้ คำแถลงย้ำอีกครั้งว่า สาเหตุที่ทำให้นิคมอุตสาหกรรมแคซองตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น ก็เพราะเกาหลีใต้ประสงค์จะถือนิคมแห่งนี้เป็นบ่อเกิดแห่งสงคราม
ในวันเดียวกัน คณะกรรมการการป้องกันประเทศเกาหลีเหนือได้ประกาศคำแถลงว่า หากสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ต้องการเจรจากับเกาหลีเหนือ ก็จำเป็นต้องหยุดพฤติกรรมท้ารบทั้งหมดและขอโทษด้วย อีกทั้งสัญญาว่าจะไม่จัดการซ้อมรบโดยขู่ด้วยนิวเคลียร์อีกต่อไป และถอนกำลังรบที่เตรียมจะก่อสงครามนิวเคลียร์ออกจากพื้นที่โดยรอบเกาหลีใต้ ตลอดจนสัญญาว่าจะไม่จัดวางอีก
คำแถลงยังระบุว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีเกี่ยวข้องกับสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือตลอดจนทั่วโลก กองทัพและประชาชนเกาหลีเหนือจะร่วมมือกับประชาชนผู้รักสันติภาพทั่วโลก เฝ้าดูท่าทีและการกระทำของสหรัฐฯ กับผู้ติดตามอย่างใกล้ชิด