สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเสด็จฯ "นารีนครา"
  2013-05-17 19:48:03  cri

เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในงานแนะนำพระราชนิพนธ์แปล "นารีนครา" ซึ่งเป็นหนังสือพระราชนิพนธ์แปลล่าสุด ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ทรงพระปรีชาสามารถด้านภาษาและวัฒนธรรมจีนตลอดจนสนพระทัยยิ่งในงานวรรณกรรมจีนสมัยใหม่ ได้พระราชนิพนธ์แปลนวนิยายของนักเขียนจีนหลายท่าน ในระหว่างวันที่ 9-10 เมษายนนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเยือนเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีนอีกครั้ง โดยได้เสด็จพระราชดำเนินไปตามตรอกเล็กซอยน้อยใจกลางเมืองอู่ฮั่น เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมอันเข้มข้นและชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไปของชาวบ้านในเมืองอู่ฮั่น ตามที่เขียนไว้ในนวนิยายจีนเรื่อง "นารีนครา"

ทรงพระราชทานพระราชดำรัสแนะนำหนังสือด้วยพระองค์ไว้อย่างน่าสนใจว่า "เคยแปลหนังสือหลายเรื่องแล้ว วันหนึ่งเดินทางมาที่ประเทศจีน มีหนังสือพิมพ์มีหน้าที่ว่าด้วยวัฒนธรรม แล้วก็เขียนเรื่องนักเขียนฉือลี่ อ่านดูแล้ว พอกลับไปอาจารย์สอนภาษาจีนก็ไปเจอวารสารที่รวมเล่มวรรณกรรมจีน เป็นเรื่องนวนิยาย และหนังสั้น คิดว่าน่าจะแปลเรื่องนี้อีกครั้ง"

"ฉือลี่"เป็นผู้เขียนหญิงที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบันของจีน ผลงานของเธอเคยได้รางวัลวรรณกรรมต่างๆ กว่า 70 รางวัล ผลงานของเธอแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้และเวียดนามตีพิมพ์ในประเทศต่างๆ

"นารีนครา" บรรยายชีวิตผู้คนในเมืองฮั่นโข่ว มณฑลอู่ฮั่น ผ่านตัวละครสำคัญได้แก่ หญิงสามคนสามวัยที่เป็นตัวแทนหญิงรุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ ให้เห็นชีวิตและสถานะของสาวอู่ฮั่นที่ต้องเผชิญหลังจากที่แต่งงาน และชะตากรรมของคนแต่ละรุ่นในสายธารชีวิตอันยาวนาน ที่สะท้อนถึง "ใจหญิงแท้จริงแกร่งดั่งเหล็กกล้า"

นางเอกในนิยายคนหนึ่งชื่อ"มี่เจี่ย" เจ้าของร้านขัดรองเท้า เป็นหญิงสาวที่มีส่วนผสมของวัฒนธรรมจีนเก่าและจีนใหม่ เคยผ่านการเป็นทหารมาก่อน มีบุคลิกโผงผาง ตรงไปตรงมา เวลานางโกรธราวกับทหารกำลังรบปะทะกับศิตรู ทว่าก็แฝงความอ่อนโยนข้างในจิตใจไว้อยู่

เนื้อเรื่องได้บอกเล่าถึงสตรีนางนี้และแม่สามีว่า ตอนที่สามีเสียชีวิต มี่เจี่ยก็โศกเศร้ามาก สุขภาพทรุดโทรม เพราะอาจรู้สึกสำนึกผิดตอนที่สามียังมีชีวิตแอบนอกใจนิด ๆ อาจทำให้รู้สึกในคุณงามความดีของสามีมากขึ้น แต่ว่าคนที่ช่วยให้มี่เจี่ยพ้นจากความโศกเศร้า นั่นคือ แม่สามี เป็นหญิงอายุมาก มีความคิดความอ่าน แม้จะรู้ว่า ลูกสะใภ้มีความประพฤติออกนอกแถวไปสักหน่อย แต่พยายามที่จะรักษาครอบครัวไว้ โดยไม่เคยว่ากล่าว เพราะได้กำลังใจจากแม่สามี โอบอุ้มให้มี่เจี่ยลุกขึ้นมาทำธุรกิจสร้างเนื้อสร้างตัวอีกครั้ง ด้วยการเปิด "ร้านขัดรองเท้า" และรับ "เฝิงชุน" เธอเป็นเหมือนตัวแทนของ "ผู้หญิงรุ่นใหม่" ที่ยังสาวและหน้าตาสะสวย หน้าที่การงานดี แต่งเพราะทะเลาะกับสามี จึงประชนด้วยการมาสมัครเป็น "ผู้หญิงขัดรองเท้า" เฝิงชุนมีปัญหาครอบครัว คือสามีเป็นพวกรักร่วมเพศ จึงคิดหนีปัญหาด้วยการมาทำงานหนัก ระหว่างการทำงาน เฝิงชุนได้พบและหลงรักกับผู้ชายรวยที่ได้แต่งงานแล้ว แต่มี่เจี่ยไม่อยากให้เฝิงชุนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงชู้ นางเอกสองคนนี้จึงเกิดปากเสียงกัน แต่หลังจากมี่เจี่ยรู้ความจริงที่สามีของเฝิงชุนเป็นเกย์ จึงจัดการให้เฝิงชุนเจอกับผู้ชายรวยคนนี้อีกครั้ง และในที่สุด นางเอกสองคนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน

และตอนท้ายของเนื้อเรื่องได้ทิ้งปมปริศนาไว้ให้ผู้อ่านกลับไปคิดกันเองว่า เพราะเหตุใด ซึ่งตอนจบนั้นนำไปสู่การฉายภาพของสังคมจีนในอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจ

"นารีนครา"ทำให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงเกิดความสนพระทัยในชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเมืองอู่ฮั่น จึงนำมาสู่การเสด็จฯ เยือนเมืองอู่ฮั่นในครั้งนี้

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงตรัสว่า "จริงๆ ก็ไม่เคยดูอู่ฮั่นอย่างละเอียด พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้ก็มีกล่าวถึงสถานที่หลายแห่งไม่เคยไป และก็พรุ่งนี้ อู่ฮั่นก็จะพาไปดูบางแห่งที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ น่าจะสนุกดี จากหนังสือเล่มนี้ก็มีอีกเรื่องที่สนใจ มีการกล่าวถึงอาหารต่างๆ มากมาย"

ลำดับต่อไปขอเชิญชมภาพบันทึกเทปการตามเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

กล่าวได้ว่า เขตชุมชนที่ตัวละครสำคัญใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในนวนิยายเรื่องนี้ได้กลายเป็นเขตการค้าคึกคักในปัจจุบัน มีห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร ร้านค้า ธนาคาร และอาคารต่างๆ ยากที่จะนึกถึงสภาพร้านขัดรองเท้าที่มีธุรกิจคึกคักในนวนิยาย แต่ถ้าใจเย็นๆ สงบใจเดินตามถนนเก่า ก็จะสามารถสัมผัสถึงชีวิตความเป็นอยู่ในยุคนั้นที่กล่าวถึงในนวนิยาย

ที่นี่เป็นถนนเฉียนจิ้นอู่ลู่ที่มักถูกเอ่ยถึงบ่อยๆ ในนวนิยาย ตามทางซ้ายของถนนยังมีร้านค้าต่างๆ ชาวบ้านท้องถิ่นมักมาแวะหาซื้อของในร้านกันเป็นประจำ ในปากทางถนนสายนี้ยังมีหอเก็บน้ำสีม่วงที่สร้างโดยชาวอังกฤษในปีที่ 12 แห่งฮ่องเต้กวงซวี่แห่งราชวงศ์ชิง มีความสูง 6 ชั้น และบนยอดหอมีระฆังด้วย แต่ปัจจุบันถูกบดบังจากป้ายโฆษณา และเมื่อเดินตามถนนสายนี้ไม่นานก็จะมาถึงย่านที่อยู่อาศัยเกิงซินหลี่ ซึ่งเป็นบ้านใหม่ของเฝิงชุน เมื่อเดินเลี้ยวขวาก็จะมาถึงถนนฮั่นเจียงอีลู่ ที่มีโรงแรม Xuan Palace Hotel ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 1928 ในบริเวณรอบๆ โรงแรมนี้ยังมีอาคารโบราณต่างๆ จะสามารถสัมผัสถึงความเจริงรุ่งเรืองของโรงแรมแห่งนี้ในยุคนั้น เดินเลี้ยวขวาต่อไป ก็จะถึงถนนฮั่นเจียง เดินไม่นานก็จะถึงเขตชุมชน "เหลียนเป่าหลี่เซ่อฉีว์"ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในนวนิยาย แต่ร้านขัดรองเท้าในเรื่องไม่มีแล้ว ถูกแทนที่ด้วยห้างสรรพสินค้าและป้ายโฆษณาใหญ่ๆ ซึ่งรถไฟใต้ดินอู่ฮั่นสายที่ 2 ที่กำลังสร้างอยู่ก็ผ่านแถวนี้

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงแสดงความเสียพระทัยที่ไม่ได้เจอร้านขัดรองเท้าในเรื่อง แต่ทรงถ่ายรูปร้านค้ารองเท้าต่างๆ แถวนั้นไปเป็นที่ระลึกแทน ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเสด็จไปยังสวนสาธารณะฮั่นถาน สถานที่สำคัญสุดท้ายของเรื่อง และทรงนั่งรถไฟฟ้าสัมผัสความงามแห่งแสงอาทิตย์ฤดูใบไม้ผลิของเมืองอู่ฮั่น พร้อมทอดพระเนตรชมทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำฉางเจียง

Yim/kt

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040