มหาทุ่งหญ้ารั่วเอ่อไก้ (2)
  2013-07-26 14:13:29  cri

ฝูงจามรีสีดำและฝูงแพะสีขาวบนทุ่งหญ้ารั่วเอ่อไก้อันเขียวขจีในช่วงกรกฎาคม

หากท่านจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่มหาทุ่งหญ้ารั่วเอ่อไก้ มณฑลเสฉวนของจีนในช่วงนี้ ซึ่งถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็ตาม แต่ควรจัดเตรียมสิ่งของกันหนาวไปด้วย สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ คือ เสื้อกันหนาว เพราะว่าช่วงฤดูร้อนอย่างกรกฎาคมนี้ อุณหภูมิบนทุ่งหญ้าผืนนี้อยู่ที่ประมาณ 10-22 องศาเซลเซียส และทุ่งหญ้าผืนนี้จริงๆ แล้วอากาศหนาวเหน็บ ตลอดปีไม่มีฤดูร้อน แต่มีน้ำค้างแข็งตลอดปี ส่วนของอีกชิ้นหนึ่งที่ควรต้องเตรียมคือ ร่ม เพราะว่าฝนตกชุกช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม จากนั้นในเดือนกันยายนดินก็เริ่มจับเป็นน้ำแข็ง ดินที่จับเป็นน้ำแข็งลึกสุด 72 เซนติเมตร แต่ถ้าไม่ได้เตรียมหรือเตรียมไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะว่าหาซื้อได้ง่ายในท้องถิ่น

ช่วงอยู่ในทุ่งหญ้ารั่วเอ่อไก้ จะมีชาวทิเบตมาทักทายอย่างมีไมตรีจิตมิตรภาพ ซึ่งมักจะทักด้วยภาษาทิเบตว่า "จา ซี เต๋อ เล่อ" หมายความว่า "โชคดี" เวลาจากกันก็ลาด้วยคำว่า "จา ซี เต๋อ เล่อ" เช่นกัน สตรีทิเบตจะแต่งตัวแบบมีเสื้อคลุมยาวและค่อนข้างหนา เพราะอากาศในฤดูร้อนเช้า-เย็นจะต่ำสุด 9 องศาเซลเซียส สูงสุดประมาณ 22 องศาเซลเซียสเท่านั้น บนศีรษะของสตรีชาวทิเบตจะมีผ้าคลุม หรือ ผ้าพันคอ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งของประดับที่ทำจากหิน หรือ อัญมณี เช่น หินตาเสือ หินทิเบต (หรือ "เทียนจู" ตามภาษาจีนกลาง) อำพรรณ หินต้นสนเขียว ประดับตั้งแต่สร้อยคอ สร้อยมือ ไปจนถึงตุ้มหู และเข็มขัด เป็นต้น มีความงามตั้งแต่หัวจรดเท้า อีกทั้งรู้สึกว่า มีคุณค่า และสวยแบบไม่เหมือนใครจริงๆ

หากท่านสนใจเครื่องประดับประเภทดังกล่าว ก็หาซื้อได้ในท้องถิ่น ราคาหลากหลายระดับ ตั้งแต่ 20 หยวนขึ้นไปถึงกว่าหลายหมื่นหยวนก็มี เช่น หินทิเบต หรือ "เทียนจู" ตามภาษาจีนกลาง เม็ดหนึ่งที่ทำเป็นพวงห้อยมือถือ ราคาประมาณ 50 หยวน ชาวทิเบตเชื่อว่า หินชนิดนี้มาจากสวรรณ จึงตั้งชื่อว่า "เทียนจู" คือ "เทียน" หมายความว่า "สวรรค์" และ "จู" หมายความว่า "มณี" รวมกันแล้วหมายความว่า "มณีสวรรค์"

ได้ยินมาว่า ชาวทิเบตไม่นิยมออมเงินที่ธนาคาร หากได้เงินเป็นธนบัตรมา ก็มักจะนำไปแลกซื้ออัณมณี หรือ ทอง เพราะว่า ชีวิตเร่ร่อน ต้องย้ายไปตามผืนหญ้าที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ และเหตุผลอีกอย่างคือ ขนย้ายอย่างสะดวก ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนน้ำเปียก หรือ โดนไฟเผาทำลาย นอกจากนี้ ยังเหมาะที่จะเป็นมรดกสำหรับลูกหลานอีกด้วย

ชาวทิเบตบริเวณทุ่งหญ้ารั่วเอ่อไก้ มณฑลเสฉวนของจีน

บนทุ่งหญ้านี้ สิ่งที่น่าชิมอย่างหนึ่งก็คือ เนื้อจามรีอบแห้ง สูงด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เพราะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติ น้ำดื่มเป็นน้ำแร่ แต่เนื้อจามรีอบแห้งราคาแพงพอสมควร คือ กิโลกรัมละประมาณ 300 หยวน หรือ 1,500 บาท มีแบบถุงใหญ่ๆ ขายเป็นโล และแบบห่อเล็กๆ ราว 50 หรือ 100 กรัม นอกจากนี้ ยังมีโยเกิร์ตจามรีให้ชิมอีกด้วย

กิจกรรมที่สนุกสนานอย่างหนึ่งบนทุ่งหญ้าคือ การขี่ม้า ม้าที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นคือ "ม้าเหอฉวี่" เป็น 1 ใน 3 ม้าพันธุ์ดีของจีน รูปร่างสูงใหญ่ ทนทาน แบกรับของได้มาก ขี่อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังถนัดข้ามน้ำอีกด้วย "ม้าเหอฉวี่" นี้เริ่มเลี้ยงในสมัยจักรพรรดิ์ฮั่นอู่ตี้ (ครองราชย์ระหว่าง 140-86 ปีก่อนคริสตกาล) ชาวทิเบตท้องถิ่นมีความเชื่อว่า ม้าบนทุ่งหญ้าเป็นม้าวิเศษที่มาจากฟากฟ้า และ "ม้าเหอฉวี่" ได้รับการยกย่องจาก ตู้ ฝู่ (ค.ศ. 712-770) กวีเอกสมัยราชวงศ์ถังว่า "หูทั้งสองสวย วิ่งเร็วดั่งลมพัด ฝีเท้าทั้ง 4 เบามาก"

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะมีโอกาสมาเที่ยวทุ่งหญ้ารั่วเอ่อไก้ เพราะว่า น่าประทับใจมากผู้ที่เคยไปมาก็อยากจะไปอีก

(YIM/LING)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040