3 รายการประกวดร้องเพลงฮิตในฤดูร้อนนี้ ทำความฝันออกมาเป็นเสียงเพลง (2)
  2013-07-29 18:01:02  cri

เมื่อปีที่แล้ว เดอะ วอยซ์ ออฟ ไชน่า ประสบผลสำเร็จอย่างมาก อาจเนื่องจากว่า วิธีการแข่งขันแปลกใหม่ ก่อนอื่น ผู้ตัดสินไม่สามารถเห็นหน้าผู้สมัครก่อนที่ตัดสินใจจะเลือกหรือไม่ เพียงสามารถฟังเสียงได้ ดังนั้น ปัจจัยด้านหน้าตาหรือรูปหุ่นจะไม่กระทบต่อการเลือกของผู้ตัดสิน คนที่ไม่มีหน้าตาสวยๆ ก็มีโอกาสเข้ารอบต่อไปได้ และคนที่มีหน้าตาสวยก็สามารถยืนยันว่า ตัวเองไม่ใช่สวยเพียงหน้าตา แต่ก็มีความสามารถด้วย ในอีกด้านหนึ่ง ในการแข่งขันรอบแรก แม้ว่าผู้สมัครต้องพยายามร้องให้ผู้ตัดสินชื่นชม เมื่อผู้ตัดสินกว่า 2 คนหันกลับมา แสดงว่าผู้ตัดสินก็ต้องแข่งขันกัน ผู้สมัครจะเลือกผู้ตัดสินที่ตัวเองชอบมากที่สุดเป็นครู ซึ่งก็เป็นจุดเด่นที่แปลกใหม่ด้วย และสาเหตุอีกด้านหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ ผู้ตัดสินทั้ง 4 คนเป็นนักร้องฮิตมากในจีน และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นนักร้องที่มีความสามารถดีเด่น ซึ่งผู้ชมยังไม่ต้องรู้ว่า ผู้สมัครคือใคร จะร้องได้อย่างไร เพียงเห็นรายชื่อผู้ตัดสิน ก็สนใจรายการนี้แล้ว

ตั้งแต่นั้นมา รายการต่างๆ ก็เริ่มเลียนแบบวิธีการจัดรายการของเดอะ วอยซ์ ออฟ ไชน่า โดยเชิญดาราใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศมาเป็นผู้ตัดสิน เช่นช่องทีวีหูหนาน ซุปเปอร์ เกิร์ลและซุปเปอร์ บอย มีผู้ตัดสินที่เป็นบุคคลด้านดนตรี แต่อาจไม่มีชื่อเสียง หรือเป็นผู้แต่งเพลง หรือผู้วิจารณ์ด้านดนตรี แต่ไม่เป็นที่รู้จักกันของผู้ชมในครั้งที่ผ่านมา ผู้ชมมักสงสัยว่า ผู้ตัดสินเหล่านี้มีคุณวุฒิจริงหรือไม่ แต่ครั้งนี้ ช่องหูหนานได้เชิญผู้ตัดสิน 4 คนที่มีความนิยมมากในจีน คือนายเซี่ย ถิงเฟิง นายเฉินคุน นางเถา จิงอิ๋ง และนางหลี่ อวี่ชุน

นายเซี่ย ถิงเฟิง เป็นนักร้องและนักแสดงชื่อดังของฮ่องกง ซึ่งเป็นซุปเปอร์ ไอดอล วัยหนุ่มที่ได้รับความนิยมมากในหลายปีที่ผ่านมา ความสามารถการร้องเพลงประทับใจมาก และการแสดงในละครและภาพยนตร์ต่างๆ ก็ดีเด่น สาเหตุที่ทำให้แฟนๆ ชอบมานานก็คือ นิสัยของเขามีลักษณ์พิเศษของตนเอง เคยได้รับคำกล่าวขวัญว่าเป็น "ดาราใหญ่แห่งเอเชีย" "ไอดอลอันดับแรกของจีน" เป็นต้น เมื่อปี 2001 เขาก็ได้รับรางวัล "นักร้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด" ของไต้หวัน และ "นักร้องชายที่ขายอัลบั้มได้ดีที่สุดของเอเชีย" ในพิธีมอบราลวัลดนตรีโลกปี 2002 และเมื่อปี 2007 ก็ได้รับยกย่องว่าเป็น "นักร้องชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชาวฮ่องกง" ซึ่งพูดได้ว่า เหมาะสมมากที่เป็นผู้ตัดสินในรายการครั้งนี้

ผู้ตัดสินชายอีกคนหนึ่งชื่อเฉินคุน เกิดที่เมืองฉงชิ่งเมื่อปี 1976 เป็นนักแสดงชื่อดังของจีน ซึ่งมีคนกล่าวหาว่า นายเฉินคุนเป็นนักแสดง ไม่ใช่นักร้อง ไม่ควรเป็นผู้ตัดสินในรายการร้องเพลง แต่ความจริงแล้ว การร้องเพลงของเขาก็เชี่ยวชาญมาก เมื่อปี 2004 เฉินคุนได้ออกอัลบั้มแผ่นแรก และเมื่อปี 2006 เขาได้รับรางวัล "นักร้องชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่" เขามีหน้าตาหล่อเหลา และมีบุคลิกเด่นชัดที่เป็นตัวเอง

ผู้ตัดสินหญิงคนหนึ่งชื่อ เถา จิงหญิง เป็นนักร้อง พิธีกร และนักเขียนที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน เธอมีนิสัยตรงไปตรงมา แต่ก็มีเมตตาธรรมเช่นกัน และมีอารมณ์ขันด้วย จึงเป็นที่นิยมมากในทั้งไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะเดียวกัน เธอก็มีหลายเพลงที่ฮิตมากหลายปีแล้ว นอกจากนี้ เธอยังเป็นพิธีกรของรายการวัน มิลเลียน สตาร์ (One Million Star) รายการแข่งขันร้องเพลงฮิตที่สุดของไต้หวันต่อเนื่องกันหลายครั้งแล้ว ผู้ชมจำนวนมากชอบสไตล์การพูดของเธอ จึงถือว่ามีคุณวุฒิเป็นผู้ตัดสินมาก

และคนสุดท้าย นางหลี่ อวี่ชุน ไม่เพียงเป็นนักร้องหญิงและนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก อีกทั้งยังเป็นแชมเปี้ยนของรายการซุปเปอร์เกิร์ลปี 2005 เธอมีความสามารถการร้องและการแต่งเพลงอย่างมาก แม้ว่าเคยถูกสงสัยว่ามีความสามารถจริงหรือไม่ และเคยถูกหัวเราะว่าหน้าตาไม่สวย ท่าทีเหมือนผู้ชาย แต่หลายปีมานี้ เธอได้ยืนหยัดในความฝันของตนเอง เสียงการสงสัยจึงไม่ได้กระทบถึงความก้าวหน้าของเธอ ปัจจุบัน นางหลี่ อวี่ชุน เป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศจีนทั้งทางนิสัยและความสามารถ ครั้งนี้ เธอกลับมาถึงช่องหูหนานเป็นผู้ตัดสิน เพื่อแสวงหาดาราใหญ่คนใหม่ของจีน และก็เป็นแบบอย่างให้ผู้สมัครมั่นใจว่า เมื่อทุ่มเทความพยายามแล้ว ตนเองก็สามารถประสบความสำเร็จได้ และทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงขึ้นได้ด้วย

อีกด้านหนึ่ง ผู้จัดทำรายการต่างๆ เปลี่ยนฐานะผู้ตัดสินเป็น "ครู" ซึ่งฟังชื่อแล้วจะมีความรู้สึกใกล้ชิดกว่า เพราะผู้ตัดสินเป็นเพียงคนที่ตัดสินว่าผู้สมัครร้องดีหรือไม่ เหมือนไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกร่วมด้วย แต่ "ครู" ไม่เพียงฟังเสียงของผู้สมัคร ยังสามารถสอนให้ผู้สมัครต้องทำอย่างไรจึงจะร้องให้ดีขึ้น และแบ่งปันประสบการณ์ อีกทั้งยังเอาใจใส่ชีวิตของผุ้สมัครด้วย ทำให้ทั้งผู้ชมและผู้สมัครรู้สึกอบอุ่นขึ้น โดยเฉพาะคนที่เป็น "ครู" นั้นยังเป็นดาราใหญ่ ซึ่งอาจเป็นไอดอลในใจของผู้สมัคร จึงยิ่งมีผลมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ตัดสินก็สามารถแสดงความรู้สึกของตนเองได้ในรายการ

ในรายการไชน่า ไอดอล มีผู้ตัดสิน 4 คนเหมือนกัน คือนายหวง เสี่ยวหมิง หนุ่มหล่อที่เป็นนักแสดงและนักร้องชื่อดังของจีน นายหวัง เหว่ยจง ผู้ดำเนินรายการและคนกลางดาราดีเด่นของไต้หวัน ซึ่งเคยจัดทำรายการที่ได้รับความนิยมทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน นางหัน หง นักร้องหญิงชื่อดัง และนางหลี่ เหวิน หรือโคโค่ ลี ดาราใหญ่ชาวสหรัฐฯ เชื้อสายจีน และนักร้องเอเชียคนเดียวที่เคยขึ้นเวทีพิธีมอบรางวัลออสการ์ ทั้ง 4 คนเป็นผู้ตัดสินและครูอบรมให้ผู้สมัครมีความสามารถและบุคลิกดีขึ้น มีความสัมพันธ์กับผู้สมัครใกล้ชิดมากกว่ารายการอื่นๆ ผู้สมัครที่เข้าร่วมรายการก็เรียกว่า ได้เข้าเรียนในโรงเรียนไอดอล ซึ่งทำให้รู้สึกว่า ผู้ตัดสินนับถือและเอาใจใส่หนุ่มสาวเหล่านี้ที่มีความฝันการร้องเพลงและการเป็นดาราอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารายการจัดเป็นรูปแบบอย่างไร ก็ถือว่าได้เสนอเวทีและโอกาสให้หนุ่มสาวที่มีความฝันด้านดนตรีแสดงความสามารถของตนเอง ให้ผู้ชมทั่วประเทศรู้จัก พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของรายการแบบนี้และจำนวนผู้สมัคร ผู้ตัดสินและผู้ชมไม่ได้สนใจคนที่เพียงร้องได้เพราะอีกต่อไป แต่ต้องเป็นนักร้องที่มีลักษณะของตนเอง ไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งสามารถให้คนอื่นสังเกตถึงเมื่ออยู่ท่ามกลางหมู่ผู้คนดีเด่น บางคนอาจมาจากชนบท ซึ่งการร้องเพลงถือว่าไม่เป็นอาชีพ เป็นแค่การละเล่นเท่านั้น แต่เมื่อยืนหยัดในความฝันของตนเอง พวกเขาก็ยังสามารถเป็นที่ยอมรับของผู้ตัดสินและผู้ชมด้วย ถึงแม้ว่าคนที่ชนะมีจำนวนน้อย แต่พอเห็นสายตาที่มุ่งมั่น ก็รู้ว่าถึงพ่ายแพ้ พวกเขาจะไม่ละทิ้งความฝันของตัวเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นแรงกดดันให้กับวัยรุ่น ตลอดผู้ชมทั้งหมดว่า ถ้ามีความฝัน ก็ต้องพยายาม และไปให้ถึงความฝัน เมื่อโอกาสมาถึง ควรรีบคว้าไว้ จึงจะประสบความสำเร็จได้

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040