เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีนจัดการประชุมเกริ่นข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์และอนาคตของเศรษฐกิจจีน ผู้ที่เข้าร่วมประชุมเห็นว่า เศรษฐกิจจีนจะไม่เกิดการทรุดลงอย่างรุนแรง หรือ ฮาร์ด แลนดิ้ง ( hard landing) ตามที่ภายนอกกังวล ปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นก็จะไม่ทำให้เกิดการล้มละลายอย่างเช่นเมืองดีทรอยต์ของสหรัฐฯ จีนยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกอยู่
นายหวัง อีหมิง รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจทางมหภาคของคณะกรรมการดังกล่าวระบุว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนเปลี่ยนรูปแบบอย่างมั่นคง และเพิ่มกำลังในการปฏิรูปด้านสำคัญ การลดองค์กรรัฐบาลและปล่อยอำนาจการประกอบกิจการและการบริหารให้แก่วิสาหกิจได้รับผลคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด คณะรัฐมนตรีได้ยกเลิกและปล่อยโครงการพิจารณาตรวจสอบจำนวน 167 โครงการ นอกจากนี้ การปรับดอกเบี้ยตามตลาด และการปฏิรูปราคาสินค้าประเภททรัพยากรดำเนินไปอย่างมั่นคง ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญๆ ยังคงอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผล จะไม่เกิดการทรุดลงอย่างรุนแรง แน่นอน
ข้อมูลที่ประกาศในวันเดียวกันปรากฏว่า ในขอบเขตทั่วโลก อัตราการลดการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนต่ำกว่าประเทศการตลาดใหม่ เช่น อินเดียและรัสเซีย เมื่อเทียบกับองค์ประกอบเศรษฐกิจสำคัญแล้ว อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนยังคงอยู่อันดับ 1 และจะกินสัดส่วนเศรษฐกิจทั่วโลกมากขึ้นต่อไป ถือว่าจีนยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกอยู่
ทว่า เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการภายนอกและภายในลดลง และมีการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ในครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นชะลอตัวลง แต่นักวิเคราะห์เห็นว่า จะเป็นผลดีต่อการปฏิรูปโครงสร้าง แต่นายหวังอีหมิงเน้นว่า การรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังมีความสำคัญมาก
"เมื่อการพัฒนาเศรษฐกิจตกอยู่ในความเฉื่อยที่ลดลงเรื่อยไป การขาดความมั่นใจทางตลาดและเศรษฐกิจถดถอยลงก็จะกลายเป็นวงจรอุบาทว์ในระบบเศรษฐกิจได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ยากที่จะปรับปรุงโครงสร้างเท่านั้น หากยังทำลายเศรษฐกิจทั่วไป และจะต้องเพิ่มต้นทุนและความยากลำบากในการฟื้นฟูใหม่"
ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า จีนยังมีเงื่อนไขและปัจจัยที่ดีมากมายเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง นายหวัง อีหมิงกล่าวว่า
"การเร่งผลักดันอุตสาหกรรมแบบใหม่ และความเป็นเมืองแบบใหม่ เร่งพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่และอุตสาหกรรมด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประกอบกับตลาดภายในมีศักยภาพใหญ่หลวง เหล่านี้ล้วนจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจได้"
Yim/Lr