รายการประกวดการเขียนตัวอักษรภาษาจีนมีบทบาททำให้ชาวจีนหันกลับมาสนใจการอ่าน การเขียนตัวอักษรภาษาจีนอีกครั้ง ส่งผลกระทบให้ชาวจีนสนใจวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนมากขึ้นด้วย และช่วยสร้างบรรยากาศการใช้ภาษาจีนมาตรฐาน อย่างน้อยให้ผู้ชมเกิดความสนใจภาษาจีนมากขึ้น
ให้เด็กมีความสนใจต่อการอ่านหนังสือ
นายสง ปิ่งฉี ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนเห็นว่า รายการโทรทัศน์ประกวดการเขียนตัวอักษรจีนเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา เขาจึงเสนอให้ทั่วทั้งสังคมร่วมมือกันสร้างบรรยากาศการใช้ภาษาจีน จากโรงเรียนจนถึงแต่ละครอบครัว จากครูบาอาจารย์จนถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง เขาเสนอว่า สำหรับเด็กอายุน้อย ก่อนจะเข้านอน พ่อแม่ปกครองพาเด็กมาอ่านหนังสือร่วมกัน พร้อมชี้ตัวอักษรให้เด็กดู ไม่ต้องบังคับให้ท่องจำหรืออ่านออกได้ทุกตัว เพียงแค่ทำให้เด็กมีความเคยชินในการอ่านหนังสือ สนใจต่อตัวอักษร ได้รับความสนุกสนานจากการอ่าน และเข้าใจว่าไม่ควรเล่นเกมส์ตลอดเวลา
สำหรับเด็กวัยเข้าเรียน เสนอให้เขียนจดหมายให้ลูกสัปดาห์ละอย่างน้อยหนึ่งฉบับ และกำหนดให้ลูกต้องตอบจดหมายด้วย ถ้าทำแบบนี้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็สามารถทำให้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กยกระดับการใช้ภาษาจีนให้สูงขึ้นได้ และยังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นได้ด้วย สำหรับโรงเรียน ครูควรสร้างโอกาสให้นักเรียนเขียนภาษาจีนมากขึ้น เช่นเขียนบันทึกประจำวันหรือประจำสัปดาห์ กำหนดให้อ่านหนังสือกระดาษมากขึ้น
นอกจากโรงเรียนประถมและมัธยมแล้ว ปีหลังๆ นี้ สถาบันอุดมศึกษาของจีนก็พากันให้ความสำคัญต่อการเขียนการอ่านภาษาจีนมากด้วยเช่นกัน เช่นสถาบันบริหารหวาเซีย ปักกิ่งก็กำหนดว่า นักศึกษาต้องเซ็นสัญญากับสถาบันบางอย่างก่อนที่จะเข้าเรียน เช่นแต่ละปี ต้องอ่านหนังสืออย่างน้อย 100 เล่ม ในจำนวนนี้มีครึ่งหนึ่งเป็นหนังสือที่ทางสถาบันเสนอให้อ่าน และสัญญาว่าจะเขียนบันทึกประจำวัน แต่ละเดือนต้องเขียนจดหมายให้พ่อแม่อย่างน้อย 1 ฉบับ ซึ่งต้องเขียนด้วยมือ ไม่ใช่พิมพ์โดยคอมพิวเตอร์
การทำความเข้าใจลายมือพู่กันจีนและภาพวาดจีนจะเพิ่มความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน
นางจาง ลี่หงเป็นครูสอนภาษาจีนเห็นว่า ถ้าคนสมัยใหม่อยากหันกลับมาสนใจภาษาจีน โดยเฉพาะตัวอักษรภาษาจีนอีก เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจลายมือพู่กันจีนและภาพวาดจีนก่อนจะดีกว่า เพราะจากจะเพิ่มความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีนแล้ว ยังทำให้มีรสนิยมสูงขึ้น แล้วลองฝึกเขียนหรือวาดด้วยตนเอง จะได้รับความสนุกสนานมากขึ้น บางครั้งอาจไม่อยากเสียเวลานานๆ ในการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์อีกก็ได้
จีนมีผู้ท่องอินเตอร์เน็ตจำนวน 591 ล้านคน และผู้ท่องอินเตอร์เน็ตผ่าน มือถือจำนวน 464 ล้านคน มีผู้ใช้ไมโครบล็อกกว่า 300 ราย แต่ภาษาจีนใช้ในเว็ปไซต์ ไมโครบล็อกไม่ได้มาตรฐาน มีปัญหาเขียนผิด ใช้ศัพท์ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม บางคนยังชอบสร้างศัพท์ใหม่ที่มีเสียงแปลกขึ้น ถือเป็นความนิยมใหม่ แต่ส่งผลกระทบต่อการใช้ภาษาจีนอย่างมาก
ชาวจีนติดมือถือในรถไฟใต้ดิน
คนจีนมีจำนวนมากขึ้นชอบอ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์ฉบับอิเล็กทรอนิกส์จากมือถือหรือ iPad เพราะคิดว่าพกสะดวกอ่านได้ทุกเวลา แต่ดิฉันคิดว่า การอ่านแบบนั้นไม่เหมือนการอ่านหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือไม่ใช้อ่านเพื่อเพียงรู้เนื้อหาอย่างเดียวเท่านั้น หากยังจะได้รับความสุขจากการชมความสวยงามของการพิมพ์ การพลิกหน้าหนังสือ กระทั่งการดมกลิ่นของหมึกและกระดาษด้วย การอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถทำให้จิตใจสงบลง อยากอ่านให้จบเร็วๆ และอ่านเป็นเวลานานจะทำให้เมื่อยตา เวียนศีรษะ แต่การอ่านหนังสือกระดาษสามารถอ่านไปเรื่อยๆ ช่วยให้จิตใจสงบ ถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ดีอย่างหนึ่ง
การอ่านหนังสือถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ดี
ในช่วงกว่า 30 ปีหลังจากจีนเปิดประเทศเป็นต้นมา แนวคิด ค่านิยมและวัฒนธรรมของตะวันตกแทรกซึมเข้าสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของคนจีนเกือบทุกด้านทุกมุม เช่นการแต่งตัว การเดินทาง การตกแต่งบ้าน และวิถีชีวิต คนจีนปัจจุบันชอบฟังเพลงสหรัฐฯ ชอบดูภาพยนตร์สหรัฐฯและประเทศตะวันตก ชอบรับประทานอาหารต่างประเทศ โดยเฉพาะฟาสต์ฟูดส์หรืออาหารจานด่วน แม้การออกกำลังกาย ก็ชอบแบบตะวันตก คือไปบริหารร่างกายที่สถานออกกำลังกาย ถือเป็นการพัฒนาก้าวหน้าของสังคม แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้มีโอกาสสนใจวัฒนธรรมจีนน้อยลง บางคนคิดว่าวัฒนธรรมจีนคือโบราณสถาน งิ้วปักกิ่ง เป็ดย่างปักกิ่งเท่านั้น แต่ความจริงการฝึกมวยไทเก๊ก การนั่งสมาธิ การฟังดนตรีจีน แม้แต่การทำและรับประทานเกี๊ยวน้ำ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมจีน และสิ่งที่เราต้องพบต้องใช้ทุกวันคือภาษาจีนนั่นเอง ดังนั้น พยายามปลีกเวลาบ้างในการเรียน อ่านและเขียนภาษาจีน จะทำให้เรารับรู้เข้าใจและสนใจวัฒนธรรมจีนมากขึ้น