สถานที่ที่สมัครลอยเป็ดยางสีเหลืองขนาดยักษ์ครั้งนี้ ได้แก่ สวนสาธารณะเป่ยไห่ ทะเลสาบโฮ่วไห่ สวนสาธารณะอี้ว์หยวนถาน พระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหยวนและสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจีนปี 2013 ที่เขตเฟองไถณกรุงปักกิ่ง 5 แห่งค่ะ ต่อไป ดิฉันกับคิตตี้ขอแนะนำสถานที่สมัครแต่ละแห่ง เพื่อให้คุณผู้ฟังรับทราบว่า แต่ละแห่งมีลักษณะพิเศษอะไรบ้างค่ะ และเฉลยคำตอบว่าสถานที่ใดได้รับเลือกลอยเป็ดยางสีเหลืองขนาดยักษ์ในกรุงปักกิ่งครั้งนี้ค่ะ

สถานที่แห่งแรกคือ สวนสาธารณะเป่ยไห่ หรือภาษาจีนเรียกว่า เป่ยไห่กงหยวน สวนสาธารณะเป่ยไห่เป็นอุทยานซึ่งมีประวัติความเป็นมากว่าพันปี ในอดีตเป็นอุทยานหลวงที่ต่อเนื่องกันมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์เหลียว ราชวงศ์จิน ราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง อุทยานเป่ยไห่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เหลียว จากนั้นก็ถูกซ่อมแซมหรือสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเพิ่มเติมในสมัยราชวงศ์ต่อๆ มา แล้วมาทำการบูรณะและปลูกสร้างสิ่งใหม่ต่างๆ ในรัชสมัยของฮ่องเต้เฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง ซึ่งก็เป็นอุทยานเป่ยไห่ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

หลังจากสาธารณะรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้นเมื่อปี 1949 รัฐบาลจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์อุทยานเป่ยไห่ โดยจัดสรรงบประมาณจำนวนมากในการซ่อมแซมสวน และเปิดให้เป็นสวนสาธารณะให้สาธารณชนเข้ามาเที่ยวชมและพักผ่อนได้ สวนสาธารณะเป่ยไห่มีเนื้อที่ทั้งหมด 690,000 ตารางเมตร โดย 390,000 ตารางเมตรเป็นพื้นที่ทะเลสาบ กล่าวได้ว่า สวนสาธารณะเป่ยไห่ได้รับการยกให้เป็นอุทยานหลวงในยุคโบราณที่เก่าที่สุด ใหญ่ที่สุด และดีที่สุดในประเทศจีน สำหรับบัตรเข้าชมรวมค่าผ่านเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ภายในสวนสาธารณะเป่ยคือ 20 หยวนสำหรับผู้ใหญ่ เวลาเข้าชมคือ6:30-21:00 น.ในระหว่างเดือนเมษายน¬-ตุลาคม ส่วนในเดือนพฤศจิกายน¬-มีนาคม เวลาเข้าชมคือ 6:30-20:00 น. ราคาบัตรสำหรับผู้ใหญ่คือ 15 หยวนค่ะ

โฮ่วไห่ เป็นทะเลสาบที่ขุดขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวนหรือเมื่อ 700 กว่าปีก่อน อยู่ทางทิศเหนือของพระราชวังต้องห้ามกู้กง ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาบซีไห่ และเฉียนไห่ ทะเลสาบทั้งสามแห่งนี้เรียกรวมกันว่า "สือช่าไห่" ทะเลสาบทั้งสามแห่งนี้ขุดขึ้นเพื่อขนส่งสินค้าจากคลองขุดเข้ามายังพระราชวังต้องห้าม โฮ่วไห่มีพื้นที่ 146.7 เฮกตาร์ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่น้ำ 34 เฮกตาร์ และพื้นที่สวนสีเขียว 11.5 เฮกตาร์

คุณผู้ฟังบางท่านอาจจะเข้าใจว่า โฮ่วไห่เป็นเพียงสถานที่ผักผ่อนหย่อนใจของชนชั้นล่างในอดีต แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนี้ เล่ากันว่า บริเวณที่ตั้งของทะเลสาบโฮ่วไห่อันเป็นแหล่งน้ำของพระราชวังต้องห้ามถูกสร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี ดังนั้น โฮ่วไห่จึงเป็นสถานที่ดีเป็นสิริมงคลตามหลักฮวงจุ้ยตั้งแต่สมัยโบราณ จึงมีพระสงฆ์ในแต่ละราชวงศ์นิยมสร้างวัด รวมถึงเชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงก็นิยมสร้างที่ประทับและอยู่อาศัยโดยรอบโฮ่วไห่ค่ะ ต่อมาผู้มีชื่อเสียงและผู้มีฐานะก็พากันมาสร้างบ้านอยู่รอบๆ ทะเลสาบโฮ่วไห่ด้วย

ตั้งแต่สมัยราชวงค์ชิง โฮ่วไห่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสูดอากาศบริสุทธิ์สำหรับผู้มีฐานะ เช่น ขุนนาง บัณฑิตผู้มีความรู้ รวมถึงประชาชนทั่วไป พวกเขาจะใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่ร้านน้ำชา หรือไม่ก็ฟังนักเล่านิทานเล่าเรื่อง นักร้องเพลงพื้นบ้าน หรือไม่ก็ฟังการบรรเลงดนตรี

ปัจจุบัน โฮ่วไห่เป็นย่านท่องเที่ยวที่รวมร้านอาหาร ผับ และบาร์ไว้จำนวนมาก แต่ละร้านตกแต่งในรูปแบบของตนเอง ตั้งรายรอบทะเลสาบขนาดใหญ่ใจกลางกรุงปักกิ่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาเที่ยวค่ะ

สวนสาธารณะอี้ว์หยวนถาน เป็นหนึ่งใน 10 สวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงของกรุงปักกิ่งทางทิศตะวันตกติดถนนวงแหวนที่สาม สถานที่สำคัญที่อยู่ติดกันคือหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน และอนุสาวรีย์แห่งศตวรรษจีน

สวนสาธารณะอี้ว์หยวนถาน มีเนื้อที่ 137 เฮกตาร์ ในจำนวนนี้ มีครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่น้ำ เมื่อกว่า 800 ปีก่อน ที่นี่มีตาน้ำที่มีน้ำผุดออกมาตลอดทั้งปี จนถึงเมื่อปีค.ศ. 1773 ซึ่งเป็นสมัยจักรพรรดิเฉียงหลง ได้นำน้ำจากภูเขาเซียงซานและขยายขนาดแหล่งน้ำนี้เป็นทะเลสาบ ต่อมาค.ศ 1960 เมื่อคลังเก็บน้ำมี่หยวนสร้างแล้วเสร็จ ก็ได้นำน้ำจากทะเลสาบคุนหมิงหูของพระราชวังฤดูร้อน จนกลายเป็นทะเลสาบในปัจจุบัน

สวนสาธารณะอี้ว์หยวนถานมีพื้นที่สวนป่า 74.44 เฮกตาร์ ซึ่งอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวครอบคลุมสูงกว่าร้อยละ 95 ภายในสวนมีพืชพรรณนานาชนิดประมาณ 19.95 แสนต้น ซึ่งมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระในเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปีค่ะ

Yim/kt