กระแสความนิยมการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีน กลายเป็นหนึ่งของปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผลักดันการท่องเที่ยวของโลก รายงานขององค์การการท่องเที่ยวต่างประเทศระบุว่า จนถึงปี 2015 จะมีชาวจีนกว่า 100 ล้านสะพายเป้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ

นาย อัลต์ (Alt) ผู้รับผิดชอบสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวต่างประเทศจีนของเยอรมนีกล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท หนึ่งคือนักท่องเที่ยวแบบแบกสะพายเป้ พวกเขามักจะเลือกเดินทางเที่ยว 8 ประเทศยุโรปภายในเวลา 10 วัน ซึ่งในระหว่างทาง ถ้าหากโรงแรมหรือสถานที่พักผ่อนมีการอำนวยข้าวต้มร้อนหรือกาน้ำร้อนให้ พวกเขาก็จะรู้สึกพอใจมาก แต่ก็มีอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่จีน" พวกเขานี้ได้รับการศึกษาอย่างดี มีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี และมีประสบการณ์การท่องเที่ยวค่อนข้างมาก และไม่อยากถูกเห็นว่าเป็น "นักท่องเที่ยวจากชนบทที่มีความรู้ต่ำและอาศัยมาม่าเป็นอาหารหลัก"

สำหรับคนรวยจีน แม้ว่า กรุงปารีสของฝรั่งเศส นครมิลานของอิตาลี และฮ่องกงมีชื่อดังมาก แต่คนเหล่านี้มักไปเที่ยวมาหลายครั้งแล้ว และมีความสนใจลดน้อยลง

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ร่ำรวยส่วนใหญ่ แอฟริกายังไม่ใช่ประเทศเป้าหมายสำคัญในการเดินทางของพวกเขา แต่ทวีปแห่งนี้กำลังดึงดูดความสนใจของนักธุรกิจจีนที่ร่ำรวยจำนวนมากขึ้น อาทิ แอฟริกาใต้ สถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวแอฟริกาใต้แสดงให้เห็นว่า ครึ่งแรกของปี 2012 มีชาวจีนเดินทางไปแอฟริกาใต้จำนวนกว่า 60,000 คน เพิ่มมากขึ้น 68% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว

ชาวจีนที่พบความสวยงามของแอฟริกานั้น ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่ไปทำการค้าในแอฟริกา สถิติของกระทรวงพาณิชย์จีนปรากฏว่า จีนมีการลงทุนโดยตรงต่อแอฟริกาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2003 มาเป็น 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2011 เมื่อเทียบกับลาตินอเมริกาแล้ว แอฟริกาคงอยู่ใกล้กับจีนมากกว่า ซึ่งการโดยสารเครื่องบินจากกรุงปักกิ่งหรือนครเซี่ยงไฮ้ใช้เวลาเพียงสิบกว่าชั่วโมง

(Yim/Lin)