อำเภอหย่งเหนียนตั้งอยู่ตอนใต้ของมณฑลเหอเป่ย ห่างจากเมืองหันตันประมาณ 15 กิโลเมตร มวยไทเก๊กตระกูลเอี๊ยในอำเภอหย่งเหนียนก่อตั้งขึ้นโดยปรมาจารย์เอี่ยโหลวเซี๊ยง(หยางลู่ฉาน) สมัยจักรพรรดิเต้ากวางแห่งราชวงศ์ชิง ต่อมาอำเภอหย่งเหนียนมีครูมวยฝีมือยอดเยี่ยมสืบทอดต่อมากว่า 30 คน เช่น หยาง ปันโหว หยาง เฉิงฝู่ และหยาง เจิ้นหมิน จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นปูชนียสถานแห่งไทเก๊ก

ปรมาจารย์เอี่ยโหล่วเซี๊ยงไปเรียนวิชามวยที่ต่างจังหวัดเป็นเวลา 18 ปี ได้เคล็ดลับของมวยชนิดต่างๆ มามากมาย แต่เชี่ยวชาญมวยไทเก๊กและมวยปากว้าเป็นพิเศษ เขาได้เรียบเรียงมวยไทเก๊กตระกูลเอี๊ยหย่งเหนียน 108 ท่าบนพื้นฐานมวยไทเก๊กโบราณตระกูลตั๊ง และเปิดโรงเรียนสอนมวยที่บ้านเกิด การถ่ายทอดมวยตระกูลนี้มีการสืบเชื้อสายอย่างชัดเจน เคยมีครูมวยที่มีชื่อเสียงหลายคน และได้เผยแพร่ไปทั่วโลก ปัจจุบันมีลูกศิษย์กระจายอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง มลฑลเสฉวน เหอเป่ย กวางตุ้ง ไหหลำ และนครซีอัน ตลอดจน 80 กว่าประเทศและเขตแคว้นทั่วโลก

มวยไทเก๊กตระกูลเอี๊ยมีท่วงท่าทีเปิดเผย โครงสร้างกระบวนท่าเข้มงวด จากผ่อนคลายสู่ความอ่อนนุ่ม จากความอ่อนนุ่มสู่ความแข็งแกร่ง ความอ่อนนุ่มผสมกับความแข็งกร้าว ลีลาโดดเด่น ทั้งท่าหมอบ ท่าโก่งหลัง โดยถือเอวเป็นศูนย์กลางในการบิดตัวไปมา มีลักษณะบนล่างเคลื่อนไหวพร้อมกัน กำลังภายในกับนอกผสานกัน มีความเป็นกลาง ความสบาย ผ่อนคลายเป็นธรรมชาติ ว่องไว และมั่นคง มวยไทเก๊กตระกูลเอี๊ยหย่งเหนียนมีเนื้อหา 2 อย่าง หนึ่ง คือเพลงมวยไทเก๊ก โดยประกอบด้วยเพลงต้าเจี้ย เพลงจงเจี้ย เพลงเสี่ยวเจี้ย เพลงควั่ยเจี้ย และเพลงต่วนต่า 32 ท่า สองคือ ใช้การฟันดาบประกอบมวย รวมทั้งกระบี่ไทเก๊ก ดาบไทเก๊ก และกระบองไทเก๊ก 13 ท่า เป็นต้น

มวยไทเก๊กตระกูลเอี๊ยหย่งเหนียนแสดงให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมทางร่างกายของมนุษย์ เหมาะสมกับคนทุกวัย สามารถช่วยบริหารร่างกาย ผู้ฝึกมวยต้องปฏิบัติตามศีลธรรมของวิทยายุทธ์จีน มีบทบาทต่อการระดมกำลัง เสริมเพิ่มความมั่นใจ และความภาคภูมิใจของชนชาติจีน