เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:โฉมหน้าแม่นางฉางเอ๋อกับกระต่ายหยกอี้ว์ทู่
  2013-12-17 15:11:25  cri

ภายหลังจากยานสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ-3 ได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการร่อนลงจอดบนผิวดวงจันทร์แบบนุ่มนวลที่บริเวณ "อ่าวสายรุ้ง" ตามที่กำหนดไว้ เมื่อเวลา 21.11 น. ของวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม หลังผ่านไป 7 ชั่วโมงในการเตรียมความพร้อมสำหรับแยกส่วนออกจากกัน รถหุ่นยนต์สำรวจดวงจันทร์ "อี้ว์ทู่ หรือ กระต่ายหยก" ก็ได้แยกตัวออกจากตัวยานฉางเอ๋อ-3 ด้วยความราบรื่นได้สำเร็จเป็นลำดับต่อมา เมื่อเวลา 4.35 น.ของวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม เพื่อออกปฏิบัติหน้าที่สำรวจพื้นผิวและทรัพยากรบนดวงจันทร์

(ซ้าย) ภาพพื้นผิวดวงจันทร์จากกล้องที่ติดอยู่ด้านใต้ตัวยาน

ขณะทำการร่อนลงจอดบนผิวดวงจันทร์เมื่อค่ำวันที่ 14 ธ.ค.

(ขวา) ภาพจำลองจุดที่ยานสำรวจร่อนลงจอดในบริเวณ "อ่าวสายรุ้ง"

ทั้งนี้ การเลือกลงจอดใน "อ่าวสายรุ้ง" เนื่องจากพิจารณาถึงเงื่อนไขความเหมาะสมหลายประการ อาทิ ลักษณะทางภูมิประเทศหรือธรณีสันฐานของบริเวณมีความราบเรียบดี การติดต่อสื่อสารบนผิวดวงจันทร์ทำได้สะดวก มีแสงอาทิตย์ส่องดี และเป็นบริเวณที่ยังไม่มีการทำสำรวจมาก่อน เป็นต้น

โดยหุ่นยนต์สำรวจดวงจันทร์ "อี้ว์ทู่" มีน้ำหนักราว 140 กิโลกรัม เป็นหุ่นยนต์ติดล้อทำให้สามารถเคลื่อนที่สำรวจได้เป็นอาณาบริเวณกว้างถึง 5 ตารางกิโลเมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถเคลื่อนผ่านเนินชัน 20 องศา หรือผิวดินที่เป็นอุปสรรคกว้างประมาณ 20 เซนติเมตรได้ และสามารถทนต่อสภาพสูญญากาศ ระดับรังสีสูง ความแตกต่างทางอุณหภูมิบนผิวดวงจันทร์ที่มากถึง 300 องศาเซลเซียสได้ด้วย

และหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ติดอยู่กับหุ่นยนต์สำรวจตัวนี้ คือ กล้องพาโนรามา ที่สามารถถ่ายภาพได้รอบทิศ 360 องศา ระยะการทำงานอยู่ที่ 3 เมตรถึงระยะอนันต์ โดยมีความละเอียดและคมชัดสูง หากมีวัตถุที่แม้จะมีขนาดเพียงเม้ดข้าวอยู่ในระยะรัศมี 10 เมตรก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ภารกิจสำคัญอีกประการที่ตามมา คือ การบันทึกภาพประวัติศาสตร์แห่งการปรากฏโฉมของธงชาติจีนนอกโลกบนผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก

(ซ้าย)ภาพหุ่นยนต์สำรวจอี้ว์ทู่ (ขวา)ภาพตัวยานฉางเอ๋อ-3 ส่วนร่อนลงจอด

จากการถ่ายภาพกันและกันที่ระยะห่าง 10 เมตรเมื่อค่ำวันที่ 15 ธ.ค.

ในส่วนยานร่อนลงจอดก็มีการติดตั้งกล้องไว้ด้วยเช่นกัน โดยเป็นกล้องสำหรับบันทึกลักษณะภูมิประเทศที่ปรากฏบนพื้นผิวดวงจันทร์ ที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ โดยเริ่มทำงานนับตั้งแต่ยานสำรวจฉางเอ๋อ-3 ร่อนลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ เพื่อเก็บข้อมูลสภาพการณ์โดยรอบ รวมถึงการทำงานทุกก้าวย่างของหุ่นยนต์สำรวจอี้ว์ทู่ และรายงานกลับไปยังศูนย์ควบคุมบนพื้นโลก ตัวกล้องมีน้ำหนักประมาณ 620 กรัม ระยะการทำงานอยู่ที่ 5 เมตรถึงระยะอนันต์(infinity) ระดับความไวอยู่ที่ 10 ภาพต่อวินาที เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องสภาพแวดล้อมและแหล่งพลังงาน อายุงานของกล้องดังกล่าวถูกออกแบบไว้ที่ 14-15 วัน

กล้องทั้งสองตัวนี้สามารถจะถ่ายรูปกันและกันเป็นภาพสีรายงานส่งกลับมายังพื้นโลกได้ ซึ่งภารกิจนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม โดยส่วนออกตระเวนสำรวจ และส่วนร่อนลงจอด ได้ประจันหน้าถ่ายภาพซึ่งกันและกันที่มีธงชาติจีนติดอยู่บนตัวส่งกลับมายังโลก ทั้งนี้ การเก็บภาพส่วนร่อนลงจอดของหุ่นยนต์อี้ว์ทู่ จะต้องอาศัยกล้องพาโนรามาถ่ายภาพนับร้อยใบนำมาเรียงประกอบกันจึงจะได้ออกมาเป็นภาพตัวยานร่อนลงจอดทั้งลำ อายุงานของกล้องเท่ากับอายุงานของตัวหุ่นยนต์สำรวจอี้ว์ทู่ที่ต้องออกตระเวนสำรวจเป็นเวลา 3 เดือน โดยทุกครั้งก่อนที่อี้ว์ทู่จะออกเคลื่อนย้ายไปสำรวจยังแหล่งใหม่ กล้องจะทำการถ่ายภาพรอบตัวมาประมวลผล เพื่อช่วยในการค้นหาเป้าหมายสถานีสำรวจป้ายต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หน้าที่สำคัญของยานฉางเอ๋อ-3 คือการร่อนลงจอดบนดวงจันทร์อย่างนุ่มนวลได้สำเร็จเป็นชาติที่ 3 ของโลก จึงไม่มีการติดตั้งจรวดเพื่อใช้เดินทางกลับสู่โลก เพราะฉะนั้นเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วก็จะปักหลักอยู่บนดวงจันทร์ไปตลอดกาล โดยอายุงานตามการออกแบบของส่วนร่อนลงจอดนี้อยู่ที่หนึ่งปี ดังนั้น นี่จึงเป็นเพียงความสำเร็จขั้นต้นในการปฏิบัติหน้าที่ของทั้งสองเท่านั้น ยังต้องติดตามผลความคืบหน้าในการทำงานของโครงการกันต่อไป

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040