เมื่อเช้าวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมนับพันคนเดินทางไปโอบล้อมรอบบ้านของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเรียกร้องให้เธอลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังออกปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมอยู่ที่จังหวัดหนองคาย โดยมีผู้สนับสนุนจำนวนมากให้การต้อนรับ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ต่อไปกลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะบุกยึดที่ทำการของหน่วยงานรัฐบาลและสื่อมวลชน หรืออาจขอความสนับสนุนจากฝ่ายกองทัพ เพื่อใช้แรงบีบรัฐบาลมากขึ้น คาดว่าการเลือกตั้งในปีหน้าจะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ต่อให้จัดการเลือกตั้งตามเวลาที่กำหนดไว้ ก็มิอาจยุติความวุ่นวายได้
วันที่ 22 ธันวาคมที่่ผ่านมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้งกล่าวว่า การลงทะเบียนผู้สมัครรับเลือกตั้งจะเริ่มต้นในวันที่ 23 ธันวาคมตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่มีข้อสงสัยว่าการเลือกตั้งในปีหน้าสามารถจัดขึ้นด้วยความราบรื่นได้หรือไม่ ผลการสำรวจประชามติจากสวนดุสิตโพลปรากฏว่า 55.34% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจเห็นว่าการเลือกตั้งไม่สามารถจัดขึ้นได้ด้วยความราบรื่น และ 47.21% รู้สึกกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง และเห็นว่าความวุ่นวายทางการเมืองยังคงดำเนินต่อไป
พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลประกาศจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไปลงทะเบียนในวันที่ 23 ธันวาคม เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดได้ประกาศไม่เข้าร่วมการเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรแสดงความเสียใจต่อการที่พรรคฝ่ายค้านปฏิเสธเข้าร่วมการเลือกตั้ง และเรียกร้องให้ดำเนินการปฏิรูปทั่วประเทศ หลังจากเลือกตั้งรัฐบาลและรัฐสภาแล้ว และจัดตั้งระบบการปฏิรูปภายในเวลา 2 ปี
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันต้องจัดการเลือกตั้งก่อนแล้วค่อยปฏิรูปประเทศ แต่พรรคฝ่ายค้านยืนยหยัดต้องปฏิรูปก่อนแล้วค่อยจัดการเลือกตั้ง ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงกับรัฐบาลยากที่จะเอาชนะกันได้ง่ายๆ จำเป็นต้องยอมลงให้กันและกัน และจัดการเจรจาเพื่อหาทางประนีประนอมกัน ประเทศจึงจะก้าวไปข้างหน้า หากมุ่งแต่ชัยชนะของตน ประเทศชาติก็จะประสบความเสียหาย
