เมื่อหลายสิบปีก่อน คนจีนไม่ค่อยฉลองเทศกาลตะวันตก แม้ชาวต่างชาติที่อยู่ในจีนพากันฉลองอย่างคึกคัก แต่คนจีนก็ไม่มีความกระตือรือร้นมากนัก หลังจากจีนปฏิรูปและเปิดประเทศ นอกจากทุนต่างชาติแล้ว วัฒนธรรมต่างชาติ โดยเฉพาะวัฒนธรรมตะวันตกก็หลั่งไหลเข้าสู่เมืองจีนมากขึ้น รวมถึงเทศกาลตะวันตกด้วย ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 โรงเรียนมัธยมปลายและสถาบันอุดมศึกษาของจีนยังควบคุมไม่ให้ฉลองวันคริสต์มาสและเทศกาลต่างประเทศ แต่เนื่องจากนักเรียนนักศึกษาต้องเรียนภาษาอังกฤษ มีชื่อภาษาอังกฤษ ดูหนังฮอลลีวูด รับประทานแมคโดนัลและ KFC ดื่มน้ำอัดลม โคคาโคล่า จึงทำให้การฉลองเทศกาลตะวันตกเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ชาวจีนวัยหนุ่มสาวให้ความสนใจต่อเทศกาลของจีนที่มีมาแต่ดั้งเดิมน้อยลงเรื่อยๆ บางคนกระทั่งบ่นว่า ขนมไหว้พระจันทร์ไม่อร่อย สู้แฮมเบอร์เกอร์ และพิซซาฮัทไม่ได้ การฉลองเทศกาลตะวันตกกลายเป็นความนิยมใหม่และแฟชั่นใหม่ทางสังคม แต่การฉลองเทศกาลจีนจึงถูกเห็นว่า "เชย"
คนจีนนิยมฉลองเทศกาลตะวันตก
การฉลองเทศกาลตะวันตกก็มีบทบาททางบวกด้วย เช่นส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ทำให้เงินทุนในสังคมหมุนเวียนได้มากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อถึงเทศกาลต่างๆ ร้านค้าไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก จะต้องจัดกิจกรรมลดราคา และเตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มอบให้แก่ลูกค้า ทั้งบรรยากาศอันคึกคักและกิจกรรมที่น่าสนใจ ล้วนดึงดูดลูกค้าไปเลือกซื้อสินค้า เนื่องจากเทศกาลของตะวันตกยังไม่ใช่วันหยุดราชการของประเทศจีน ดังนั้น ร้านค้าและร้านอาหารจึงต้องมีนโยบายโปรโมชั่นโดยเฉพาะ นั่นก็คือขยายเวลาปิดร้าน บางแห่งกระทั่งเปิดตลอดทั้งคืน และมีการลดราคามากที่สุดในช่วงตี 2 ถึงตี 4 ทำให้หนุ่มๆ สาวๆ ยอมอดความง่วงนอนเดินในห้างในกลางคืน เลือกสินค้าไว้ล่วงหน้า และถึงช่วงลดราคามากที่สุดรีบไปจ่ายเงิน แม้ว่าอาจจะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ได้ของถูกใจที่ราคาถูกกว่าปกติเป็นเท่าตัว ก็ยังรู้สึกคุ้มค่า
ความจริง ประชาชาติจีนมีเทศกาลมากมายไม่น้อยกว่าประเทศตะวันตกอย่างแน่นอน แต่ทำไมคนจีนนิยมเทศกาลตะวันตกมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านประเพณีวัฒนธรรมเห็นว่า สาเหตุสำคัญมี 3 ประการคือ
1.ประชาชนจีนจำนวนไม่น้อย ไม่มีศาสนา ไม่นับถือศาสนาใดๆ จึงคิดว่าฉลองเทศกาลของศาสนาอะไรก็ได้ ขอแต่เพียงเพื่อให้ได้รับความสนุกสนาน
2.คนหนุ่มสาวของจีนนิยมวัฒนธรรมและค่านิยมตะวันตก ไม่ว่าอะไร ถ้าเป็นของประเทศตะวันตกก็ถือว่าเป็นของดี จะต้องเลียนแบบและปฏิบัติตาม
3.คนจีนมีความสนใจต่อขนบประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษน้อยลง เช่นเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของคนจีน ก็มีความสำคัญน้อยลงเรื่อยๆ เพราะตามประเพณี ในช่วงตรุษจีน สมาชิกครอบครัวทั้งหมดต้องกลับบ้านพ่อแม่ อยู่พร้อมหน้ากัน ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่เนื่องจากปัจจุบันคนจีนที่ออกจากบ้านเกิดไปทำงานในต่างถิ่นต่างมณฑลมีจำนวนมาก
การกลับบ้านเป็นเรื่องลำบากมาก
ทุกปีๆ ตั้งแต่การวางแผนขอลางาน ค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการเดินทาง ต้องเตรียมการจองตั๋วเครื่องบินหรือตั๋วรถไฟหรือรถโดยสารล่วงหน้า การจับจ่ายซื้อของขวัญให้ญาติมิตรที่บ้าน ทำให้การกลับบ้านฉลองตรุษจีนเป็นความยุ่งยาก เป็นภาระที่น่าปวดหัวที่สุดสำหรับพวกเขา ดังนั้น จึงมีจำนวนคนจีนเพิ่มขึ้นทุกปี ที่ยอมดูทีวีที่บ้านอย่างว้าเหว่ หรือออกไปเที่ยวที่อื่นๆ แทนการกลับบ้านไปพบครอบครัว
เทศกาลจีนมักเกี่ยวข้องกับอาหารการกิน เช่นวันไหว้พระจันทร์รับประทานขนมไหว้พระจันทร์ วันตรุษจีนรับประทานเกี๊ยวน้ำ เทศกาลตวนอู่รับประทานขนมจ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับเทศกาลตะวันตกแล้ว มีบรรยากาศโรแมนติกน้อยกว่า ดังนั้น คนจีนจึงยอมรับเทศกาลตะวันตกได้ง่าย
เทศกาลจีนที่ใกล้กับวันคริสต์มาสที่สุดคือ วันตงจื้อ หรือวันเข้าฤดูหนาว ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม เป็นวันที่ช่วงกลางวันสั้นกลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี วันนี้มีความหมายว่า "หน้าหนาวมาถึงแล้ว" โดยชาวจีนทางเหนือจะนิยมรับประทาน "เจี่ยวจื่อ หรือเกี๊ยวน้ำ" หรือหุนตุ้น และดื่มซุปเนื้อแพะ เนื่องจากเกี๊ยวมีรูปร่างเหมือนหู การรับประทานเกี๊ยวก็เพื่อไม่ให้หูจับแข็งจนหลุดเพราะความหนาว ซึ่งที่มาของความเชื่อนี้คือในอดีต สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก หรือตงฮั่น มีแพทย์ชื่อดังนามว่า จางจ้งจิ่ง ชาวเมืองหนานหยาง มณฑลเหอหนาน ระหว่างที่เขาเดินทางกลับบ้านเกิดนั้น เป็นช่วงฤดูหนาว เขาเห็นชาวบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำไป๋เหอ มีใบหน้าเหลืองซีดร่างกายซูบผอม และต้องทนทุกข์ทรมานกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ หลายคนโดนพิษความหนาวกัดใบหูจนเป็นแผล จางจ้งจิ่ง จึงสั่งให้ลูกน้องตั้งหม้อขนาดใหญ่ต้มน้ำแกงขับไล่ความหนาวออกแจกจ่าย โดยนำเนื้อแพะ พริก และสมุนไพรจีนที่ใส่ลงต้มพร้อมกัน หลักจากนั้นตักเนื้อแพะและสมุนไพรที่ต้มออกมาสับ แล้วนำแป้งมาห่อทำเป็นรูปคล้ายใบหู พอต้มสุกแล้วก็แจกให้ผู้คนละสองชิ้นพร้อมกับน้ำซุปร้อนๆ เมื่อชาวบ้านรับประทานเข้าไปต่างรู้สึกว่าร่างกายอบอุ่น และร้อนจนถึงใบหู ช่วยให้แผลค่อยๆ หายดี จนเป็นที่มาของการกินเกี๊ยวเพื่อขับไล่ความหนาว พร้อมกับเพื่อรำลึกถึงหมอเทวดาจางจ้งจิ่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังนิยมรับประทานเนื้อหมา เพื่อขจัดความหนาว เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ส่วนคนภาคใต้นิยมรับประทานทังหยวน หรือบัวลอย ซึ่งมีทั้งใส้หวานและไส้เนื้อ มีความหมายว่าทั้งครองครัวอยู่พร้อมหน้ากัน
วันตงจื้อ ชาวจีนทางเหนือจะนิยมรับประทาน "เจี่ยวจื่อ หรือเกี๊ยวน้ำ"
เทศกาลของจีนแบ่งเป็นสองประเภท คือเทศกาลจีนตามปฏิทินจันทรคติ ที่ สำคัญมีตรุษจีน เป็นวันที่ 1 เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ของจีน
เทศกาลหยวนเซียวหรือเทศกาลโคมไฟ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำของเดือนอ้าย เทศกาลตวนอู่ ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 ตามจันทรคติ
เทศกาลชีซี เป็นวันขึ้น 7 ของเดือน 7 ตามจันทรคติ เป็นวันคู่รักของคนจีน
เทศกาลจงชิว หรือวันไหว้พระจันทร์ เป็นวันขึ้น 15 ค่ำของเดือน 8 ตามจันทรคติ เป็นวันอยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว ต้องรับประทานขนมไหว้พระจันทร์หรือ ยั่วปิ่ง
เทศกาลฉงหยาง เป็นวันขึ้น 9 ค่ำ ของเดือน 9 ตามจันทรคติ เป็นเทศกาลเคารพผู้สูงอายุ
เทศกาลล่าปา เป็นวันขึ้น 8 ค่ำของเดือน 12 ตามจันทรคติ คนจีนนิยมรับประทานข้าวต้มที่ทำด้วยธัญญาหาร ถั่ว และพุทราแดงรวม 8 อย่าง
เทศกาล กั้วเสี่ยวเหนียน ตรงกับวันที่ 23 ของเดือน 12 ตามจันทรคติ ตามประเพณี ในวันนี้ ทุกครอบครัวต้องทำความสะอาดบ้าน และมีการจุดประทัดเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งครัว
วันชิวอิก ซึ่งเป็นวันที่ 30 ของเดือน 12 ตามจันทรคติ เป็นวันส่งท้ายปีเก่า สมาชิกทุกในครอบครัวต้องกลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารมื้อค่ำส่งท้ายปีเก่าหรือเหนียนเยี่ยฟ่านร่วมกัน เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน จะออกนอกบ้านไปจุดประทัดและพลุไฟ เพื่อขจัดสิ่งอัปมงคลและโชคร้ายให้หมดสิ้น และขอให้โชคดี สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขตลอดปีใหม่ที่จะถึง
ส่วนเทศกาลที่คนจีนฉลองกันตามปฏิทินสุริยคติก็มีจำนวนไม่น้อย เช่น
วันขึ้นปีใหม่ คือวันที่ 1 มกราคม
วันสตรี คือวันที่ 3 มีนาคม ในวันนี้ ผู้หญิงทั่วประเทศมีสิทธิ์หยุดงานครึ่งวัน
เทศกาลปลูกต้นไม้ คือวันที่ 12 มีนาคม
เทศกาลชิงหมิง คือวันที่ 4-6 เมษายน (ซึ่งเมื่อก่อนตรงกับวันที่ 8 ของเดือน 3 ตามจันทรคติ) เป็นเทศกาลที่เซ่นไหว้บรรพบุรุษและสมาชิกครอบครัวที่จากไปแล้ว มีการทำความสะอาดสุสาน และจัดพิธีเซ่นไหว้
วันแรงงานสากล หรือวันเมย์เดย์ คือวันที่ 1 พฤษภาคม
วันเยาวชน คือวันที่ 4 พฤษภาคม
วันเด็ก คือวันที่ 1 มิถุนายน
วันชาติ คือวันที่ 1 ตุลาคม ทั่วประเทศจะหยุดงาน 3 วัน