ชาวจีนถือว่าตั้งแต่ฉูซีหรือวันส่งท้ายปีเก่าจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 30 เดือนสิบสอง ไปจนถึงวันที่ 30 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน
เรื่องเด่นเป็นพิเศษเรื่องแรกก็คือ ประชาชนจีนนิยมรับประทานอาหารเย็นวันฉูซีหรือวันส่งท้ายปีในโรงแรม คุณผู้ฟังทราบไหมคะว่า ตามประเพณีแต่ดั้งเดิมของชาวจีน สมาชิกทุกคนของครอบครัวต้องรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีที่บ้าน ไม่ว่าสมาชิกครอบครัวไปทำงานหรือเรียนหนังสือในต่างจังหวัดหรือต่างประเทศแต่ต้องกลับบ้านและรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีกับพ่อแม่ที่บ้านซึ่งสืบทอดกันมากว่า 1,600 ปีแล้ว
แต่ว่าอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีซึ่งเป็นอาหารสำคัญที่สุดสำหรับชาวจีนในตลอดทั้งปีเกิดการเปลี่ยนแปลงในเทศกาลวันตรุษจีนปีม้าปีนี้ค่ะ โดย มีประชาชนจีนมากยิ่งขึ้นนิยมรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีที่โรงแรม หนึ่งก็คือให้ตัวเองได้พักผ่อนหน่อยไม่ต้องทำอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีให้เหนื่อย และรับประทานอาหารค่ำส่งท้ายปีเก่าร่วมกันอย่างสบายใจ สองก็คือจะได้รับประทานอาหารที่มีรสชาติต่างไปจากรสมือเดิมๆ ของตัวเองค่ะ
สาเหตุที่ปีนี้มีประชาชนจีนมากยิ่งขึ้นนิยมรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีในโรงแรม เพราะว่าชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดียิ่งขึ้นและมีเงินมากยิ่งขึ้น ครอบครัวของคุณเจ้าก็รับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีในโรงแรมค่ะ เขาบอกว่า บ้านเขามีพี่น้องสามคน ในอดีตพี่น้องสามคนก็รับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีที่บ้านของพ่อแม่ แม้ว่ามีบรรยากาศที่คึกคักมาก แต่พ่อกับแม่ก็ต้องเหนื่อยทำกับข้าว ดังนั้น หลังจากผ่านการปรึกษากันแล้ว ครอบครัวของคุณเจ้าก็ตกลงว่า จะรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีที่โรงแรมในปีม้าปีนี้ค่ะ สมาชิกทุกคนในครอบครัวยังคงอยู่พร้อมหน้ารับประทานมื้อเย็นในวันฉูซีร่วมกัน เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่รับประทานเท่านั้น อีกทั้งพ่อแม่ก็ไม่ต้องลำบากทำอาหารให้เหนื่อยด้วย
ปัจจุบัน มีชาวจีนมากมายมีความคิดเหมือนครอบครัวของคุณเจ้า คือ ออกไปรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีที่โรงแรมแทน ซึ่งค่าอาหารก็จะเป็นตั้งแต่หลายร้อยหยวนถึงสองสามพันหยวน แม้ว่าราคาอาจจะแพงกว่าวันธรรมดา แต่พนักงานของโรมแรมก็ทำงานอย่างจริงจังไม่กลับบ้าน เพื่อรับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีกับครอบครั้ว เลือกที่จะทำงานรับรองแขกที่มารับประทานอาหารมื้อเย็นในวันฉูซีในโรงแรมค่ะ ขอบคุณกลุ่มคนที่ยังต้องทำงานในเทศกาลวันตรุษจีนค่ะ
Yim/kt