สัมมนา"มารยาทในการทำธุรกิจกับชาวจีน"- เข้าใจมารยาทการค้า พาธุรกิจสู่ความสำเร็จ
  2014-03-10 21:06:12  cri

คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามารยาทในการปฏิบัติหรือติดต่อกับคนที่มาจากต่างชาติต่างภาษาเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ได้เล็งเห็นความจำเป็นในเรื่องนี้ จึงได้จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้สนใจผ่านโครงการสัมมนาวิชาการจีนศึกษาในหัวข้อ "มารยาทในการทำธุรกิจกับชาวจีน" โดยผู้เชี่ยวชาญจีนและไทย ได้แก่ ศาสตราจารย์หยาง เป่าหยุน นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง, นายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์และอาจารย์เฉิน เส้ากัว ผู้มากประสบการณ์ในเรื่องธุรกิจท่องเที่ยว มาให้ความรู้ในฐานะวิทยากร กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ณ อาคารเอนกประสงค์ 3 ชั้น 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

มารยาทหรือในภาษาจีนเรียกว่า หลี่อี้ (礼仪) แยกออกมาดูทีละตัวจะพบว่าคำแรกหมายถึงกฎเกณฑ์หรือสิ่งที่สังคมหนึ่งๆตระหนักร่วมกัน ส่วนคำหลังคือพิธีกรรมหรือขั้นตอน เมื่อพูดถึง หลี่อี้ (礼仪) โดยรวมแล้วก็คือขนบธรรมเนียมที่กำหนดโดยมารยาทในสังคม ซึ่งแน่นอนว่าประเทศต่างๆก็มีมารยาทในสังคมไม่เหมือนกัน และแม้แต่คนจากประเทศเดียวกัน หากมาจากคนละถิ่นยังพูดจาคนละสำเนียงและมีหลักในการปฏิบัติที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นประเทศจีน เป็นต้น

มารยาททางธุรกิจของจีนได้รับอิทธิพลมาจากขงจื๊อค่อนข้างมาก ปรัชญาของขงจื๊อก็เน้นเรื่องหลี่(礼) เป็นสำคัญ จนกระทั่งมีคำกล่าวที่ว่า "ใครไม่รู้เรื่องมารยาท ไม่มีที่ยืนในสังคม" สำหรับเรื่องมารยาทในสังคมแล้ว คนจีนนิยมยึดหลักห้าประการ ได้แก่ เมตตาธรรม, มโนธรรม, จริยธรรม, ปัญญาธรรมและสัตยธรรม

คนจีนจะนิยมเน้นที่ความสามารถหรือตัวบุคคลเป็นสำคัญ ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน มารยาทต่างๆของจีนนั้นจึงมากมายและซับซ้อน แยกย่อยเป็นหลายเรื่อง เช่น มารยาทในการพบปะ, มารยาทในการเลี้ยงรับรอง, มารยาทในการแต่งกาย, มารยาทในการดื่มสุรา ฯลฯ คนจีนมีธรรมเนียมแบบดั้งเดิม และยังมีความเชื่อด้านศาสนา หากเราเข้าใจขนมธรรมเนียมดั้งเดิมของจีนเราก็จะทราบว่าเมื่อใดที่เป็นโอกาสจะหาเงินได้ ยกตัวอย่างเช่น วันสำคัญต่างๆ หรือการนับถือความกตัญญูมาเป็นอันดับต้นๆ

ชาวต่างชาติไม่น้อยที่เมื่อเวลาเจอปัญหาในเรื่องมารยาทและธรรมเนียมที่ต่างกันแล้วไม่รู้จะปฏิบัติอย่างไร จะมีพฤติกรรมแบบใช้ความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้งหรือพูดง่ายๆว่าเปรียบเทียบกับความเคยชินของตนเองว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งแท้จริงแล้วเราควรเทียบหรือวัดความรู้สึกจากฝั่งตรงข้ามมากกว่า มารยาทหรือธรรมเนียมต่างๆบนโลกใบนี้ไม่มีผิดหรือถูก ไม่มียอดเยี่ยมหรือยอดแย่ มีแต่ความแตกต่างกัน ซึ่งหากเรามีความรู้ พยายามทำความเข้าใจ เคารพความแตกต่าง และเพิ่มการสื่อสารระหว่างกันให้มากขึ้น จะทำให้มารยาทไม่เป็นอุปสรรคใหญ่ในการติดต่อค้าขายและยังสามารถลดและหลีกเลี่ยงการขัดแย้งเนื่องจากความต่างทางวัฒนธรรมได้อีกด้วย

หากนักธุรกิจไทยอยากจะผูกสัมพันธไมตรีกับคนจีน อันดับแรกคือต้องให้เกียรติกันและกัน, ไม่ควรไปดูถูกผู้อื่น เนื่องจากจีนเป็นชาติที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความภาคภูมิใจในชาติของตนมาก, ควรมีความนอบน้อมถ่อมตน ยกให้เค้าเป็นอาจารย์ซึ่งตรงนี้จะต่างกับวัฒนธรรมในซีกโลกตะวันตก และคนจีนให้ความสำคัญกับเรื่องบุญคุณมาก หากเคยช่วยเหลืออะไรก็จะจำได้และมีโอกาสจะช่วยตอบแทน

ถ้าต้องการไปลงทุนที่จีนต้องทำให้จีนเห็นว่าบริษัทเราที่ไปลงทุนนั้นมีประโยชน์, ประชากรจีนได้ประโยชน์และประเทศจีนก็ได้ประโยชน์ การไปแบบทำให้เห็นว่ามากอบโกยหรือเน้นแต่หากำไรอย่างเดียวยากที่จะสำเร็จได้ การทำตนให้ได้รับความเชื่อถือก็เป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง และลำดับสุดท้ายที่หลายคนอาจมองข้ามคือการปฏิบัติตามกฎหมายรวมถึงการเสียภาษีให้ถูกต้อง การเข้าไปทำธุรกิจแบบถูกต้องตามกฎหมายจะทำให้เขามองว่าเป็นเป็นคู่ค้า เป็นเพื่อนร่วมทำธุรกิจมากกว่าเป็นคู่แข่งหรือผู้หวังมาตักตวง

อย่าลืมว่า "มารยาท" สามารถเป็นกุญแจดอกหลักไปสู่ตลาดจีนได้ และยังช่วยหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด รวมทั้งป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเสียหาย สุดท้าย นอกจากมีความรู้เรื่องมารยาทแล้ว ควรจะเพิ่มความเข้าใจไปด้วยเพื่อการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040