สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังการค้นหามา 55 วัน ทางการมาเลเซียประกาศว่า ยังไม่พบเครื่องบิน MH370 ที่ศูญหาย มาเลเซียจะดำเนินการค้นหาต่อไป ดังนั้น ประชาคมโลกจะเพิ่มความร่วมมือด้านการค้นหาต่อไปด้วย
งานค้นหาเครื่องบิน MH370 มีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ประการแรก หลังการขาดการติดต่อแล้ว ข้อมูลที่ได้รับการยืนยันเป็นที่ถูกต้องนั้นมีจำนวนน้อยมาก ถึงแม้ว่าได้ดำเนินการค้นหาในน่านน้ำมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ในปัจจุบัน แต่น่านน้ำนี้ก็เป็นแค่น่านน้ำที่สงสัยว่าเป็นสถานที่เกิดเหตุเท่านั้น ประการที่ 2 ขอบเขตที่ต้องสงสัยและดำเนินการค้นหามีพื้นที่กว้างใหญ่อย่างยิ่ง ซึ่งทีแรกคือน่านน้ำอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ ต่อจากนั้นคือน่านน้ำ โดยรอบทางภาคใต้และภาคเหนือที่มีพื้นที่เกือบ 7.7 ล้านตารางกิโลเมตร ต่อมาคือน่านน้ำศูนย์กลางของมหาสมุทรอินเดียที่มีพื้นที่กว่า 3 ล้านตารางกิโลเมตร กล่าวได้ว่า การค้นหาในบริเวญกว้างใหญ่ขนาดนี้ มีความยากลำบากเหมือนงมเข็มในทะเล นอกจากนี้ มหาสมุทรอินเดียที่สงสัยว่าเป็นสถานที่ที่เครื่องบินตกนั้น เป็นหนึ่งในน่านน้ำที่มีสภาพร้ายแรงมากที่สุดในโลก และเป็นน่านน้ำที่มีการเดินเรือน้อยสุดในโลกด้วย
มาเลเซียไม่สามารถรับมือกับการท้าทายใหญ่ขนาดนี้โดยลำพังฝ่ายเดียว จึงต้องการความร่วมมือจากประเทศอื่นๆ ด้วย ในช่วงกว่า 50 วันที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการค้นหาเครื่องบิน โดยได้จัดส่งเรือ 18 ลำ เครื่องบิน 13 ลำ และใช้ดาวเทียม 21 ดวงเพื่อดำเนินการค้นหา พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่มืออาชีพร่วมงานค้นหาด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องที่ต่างๆ ของจีนยังได้ให้ความสนใจและบริการกับครอบครัวผู้โดยสารบนเครื่องบินด้วย เช่นมีการรักษาพยาบาล การรักษาทางจิต และให้การปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นต้น ความพยายามของจีนได้รับการชื่นชอบอย่างสูงจากประเทศอื่นๆ
นายโทนี อับบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า การค้นหาครั้งนี้อาจจะเป็นการค้นหาที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อการนี้ เพียงประชาคมโลกสามัคคีกัน ประสานงาน และรับมือด้วยกัน ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง จึงจะไขปริศนาได้ และทำให้การเดินทางในอนาคตมีความปลอดภัยและความงดงามมากขึ้น
In/Ldan