หนังสือพิมพ์ "จิงจี้รื่อเป้า(เศรษฐกิจรายวัน)" ของจีนรายงานว่า หลายปีมานี้ ภายใต้ภูมิหลังวิกฤตการเงินโลกกับภาวะเงินเฟ้อในเวียดนามทวีความรุนแรงนั้น การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามเริ่มดิ่งลง จนถึงปัจจุบัน หนทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่แน่นนอน จนกระทั้งปัจจัยลบอีกมากมาย จึงยากที่จะข้ามผ่านจากภาวะตกต่ำได้
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติใหญ่เวียดนามระบุว่า ไตรมาสแรกปีนี้ มวลรวมการผลิตภายในประเทศหรือ GDP ขยายตัวเพียงแค่ 0.2% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจึงถูกเล็งผลลบในวงกว้าง ทางการเวียดนามแถลงว่า ยอดการเกินดุลทางการค้ากับต่างแดนของเวียดนามเป็นจำนวน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่วงการตลาดมีความเห็นทั่วไปว่า การส่งออกของบริษัททุนต่างชาติในเวียดนาม เป็น "หัวรถจักร" ที่ขับเคลื่อนธุรกิจการค้ากับต่างชาติของเวียดนาม เฉพาะในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การส่งออกของบริษัททุนต่างชาติคิดเป็น 68% ของยอดการส่งออกทั้งหมดของเวียดนาม พิจารณาจากโครงสร้างสินค้าส่งออก สินค้าเกษตรยังคงครองสัดส่วนมากสุด แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ามูลค่าเพิ่มของผลิตผลการเกษตรค่อนข้างต่ำ นักวิเคราะห์เห็นว่า ขณะนี้ เวียดนามยังไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควรจากกระแสการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศรอบข้าง มิหน้ำซ้ำ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจภายในเวียดนามเองยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคอีกไม่น้อยเลยทีเดียว
พิจารณาจากปัจจัยภายนอก การเติบโตทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศเศรษฐกิจเจริญใหม่ พบกับความยากลำบากกันแล้วเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ ดังนั้น ประเทศอาเซียนหลายประเทศต่างเร่งความเร็วในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับต่างประเทศแล้ว เวียดนามก็มองการเจรจาเพื่อการค้าเสรีหลายๆ ครั้งที่จัดเป็นชุด เช่น "ข้อตกลงว่าด้วยหุ้นส่วนความสัมพันธ์ภายในภูมิภาค" ฯลฯ เป็นโอกาสเอื้อประโยชน์ทางการค้าที่จะลดอัตราภาษีส่งออกสินค้า การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมการลงทุน การหาทางกระตุ้นการส่งออก การเพิ่มตำแหน่งงาน และการหมุนเวียนสินค้า แต่ทว่า การจัดอันดับศักยภาพการแข่งขันบนเวทีสากลประจำปี 2013 – 2014 ของฟอรัมเศรษฐกิจโลกแสดงว่า ศักยภาพการแข่งขันของเวียดนามนั้น ติดอันดับ 70 ของทั่วโลก ส่วนในกลุ่ม 10 ประเทศอาเซียน เวียดนามก็อยู่อันดับ 6 เท่านั้น ซึ่งสะท้อนว่า ตลาดสากลยังคงไม่มั่นใจเท่าไรต่อการพัฒนาของเวียดนามในอนาคต
เมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุการณ์รุนแรงทำลาย ปล้น เผา บริษัทต่างชาติในเวียดนาม รวมทั้งบริษัทจีนในเวียดนาม เป็นภัยคุกคามต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทเหล่านี้ เป็นภัยอันตรายต่อชีวิตและทรัพสินย์ของพนักงานในบริษัทต่างชาติ สำหรับเวียดนามที่มีระดับการพึงพาอาศัยการลงทุนจากต่างชาติและการค้ากับจีนสูงนั้น ภาวะแวดล้อมด้านการลงทุนกับการค้า และภาพลักษณ์ของเวียนนามตกต่ำลงอย่างรุนแรง ย่อมทำให้เวียดนามย่อมต้องประสบความเสียหายด้านการเติบโตของเศรษฐกิจและการค้ากับต่างชาติในอนาคต เพราะฉะนั้น การที่เวียดนามจะบรรลุเป้าหมายกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว 5.8% และดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 7% นั้น คงประจักษ์เป็นจริงได้ยากกว่าที่คาดหวังไว้
IN/FENG
