ตำบลหรงโถวซานเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ บ้านเรือนที่สร้างด้วยดินส่วนใหญ่พังถล่ม แต่ท่ามกลางซากปรักหักพัง มีตึกขนาดเล็ก 6 หลังที่ก่อสร้างขึ้นตามการออกแบบต้านแผ่นดินไหวนั้น ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
ปีหลังๆ นี้ เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นได้เผยแพร่และส่งเสริมให้ประชาชนในเขตนี้ ก่อสร้างบ้านที่สามารถต้านแผ่นดินไหวมาโดยตลอด แต่สำหรับชาวชนบทอำเภอหลู่เตี้ยนที่รายได้เฉลี่ยวต่อปีเพียง 4,300 หยวน การสร้างบ้านต้านแผ่นดินไหวที่มีราคากว่า 200,000 หยวนนั้น เป็นเรื่องที่ต้องคิด ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างด้วยดิน
สถิติปรากฏว่า ค่าครองชีพเฉลี่ยต่อวันของชาวอำเภอหลู่เตี้ยนจำนวนกว่า 60% ไม่ถึง 1 เหรียญสหรัฐฯ การคลังท้องถิ่นก็ขาดเงินทุนเช่นกัน ไม่มีความสามารถระดมเงินทุนให้กับประชาชนจำนวน 4.1 ล้านคนในเขตนี้ นายจ้าวหมิงหมิง ชาวนาหมู่บ้านชุ่ยผิง ติดหนี้หลายหมื่นหยวนแพราะสร้างบ้านใหม่ แต่บ้านของเขาก็พังเช่นกันเพราะไม่มีการออกแบบต้านแผ่นดินไหว
ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า จีนยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญที่สุดของโลก ต้องใช้ความพยายามอีกหลายๆ ปี จึงจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นพอสมควร
ปี 2013 รายได้เฉลี่ยของคนในเมืองเป็นประมาณ 27,000 หยวน ส่วนรายได้ชาวชนบทเป็น 8,900 หยวน
ในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ สิ่งก่อสร้างภายในตัวอำเภอหลู่เตี้ยนส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกทำลาย แต่ที่เขตชนบท บ้านพังเป็นแถวจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงรายงานสถิติระบุว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ความเสียหายจากแผ่นดินไหวมีกว่า 80% เกิดขึ้นที่เขตชนบท
เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นกล่าวหวังว่า รัฐบาลกลางจะให้การสนุบสนุนด้านนโยบายเพื่อช่วยสร้างบ้านที่มีความสามารถต้านแผ่นดินไหวจำนวนมากขึ้นในเขตยากจนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
(In/Lin)