เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นายเฮอร์มัน ฟาน รอมปุย (Herman Van Rompuy) ประธานสภายุโรปประกาศแถลงการณ์โดยระบุว่า แผนคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ของสหภาพยุโรปจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 กันยายนนี้ ประธานาธิบดีโอบามาก็ประกาศแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า จะเพิ่มการคว่ำบาตรรัสเซียด้านอื่นๆ เช่น การเงิน พลังงานและการป้องกันประเทศ

เอกสารที่เกี่ยวข้องของสภายุโรปแสดงให้เห็นว่า แผนคว่ำบาตรใหม่ส่งเสริมการจำกัดรัสเซียในการเข้าตลาดทุนสหภาพยุโรป ซึ่งรวมทั้ง พลเมืองกับบริษัทของสหภาพยุโรปจะไม่ให้เงินกู้แก่ธนาคารหลักของรัฐ 5 แห่ง ห้ามซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าๆ เช่นพันธบัตรและหุ้นที่มีเวลาจำหน่ายมากกว่า 30 วันของธนาคารรัฐบาลทั้ง 5 แห่งนี้ ห้ามให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายที่กล่าวข้างต้น นอกจากนี้ ในโครงการบุกเบิกพัฒนาน้ำมันปิโตเลียมในทะเลลึก การสำรวจน้ำมันปิโตรเลียมในขั้วโลกเหนือ โครงการหินน้ำมัน (oil shale)ของรัสเซีย สหภาพยุโรปจะไม่ให้บริการต่างๆ เช่น เจาะสำรวจ รังวัดบ่อน้ำมัน ตรวจสอบบ่อน้ำมัน ในอีกด้านนี้ การคว่ำบาตรยังเกี่ยวพันถึงการห้ามส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทหารและพลเรือนกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในขณะเดียวกัน เพิ่มข้อห้ามเจ้าหน้าที่ 24 คนเข้าแดนสภาพยุโรป และอายัคทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ 24 คนในสหภาพยุโรป ซึ่งจำนวนถูกผู้ที่คว่ำบาตรในปัจจุบันเพิ่มเป็น 119 คน

ในขณะเดียวกัน ประนาธิบดีโอบามาประกาศแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ จะเพิ่มระดับการคว่ำบาตรรัสเซีย เช่น การเงิน พลังงานและการป้องกันประเทศ เพื่อตอบโต้พฤติกรรมมิชอบด้วยกฎหมายของรัสเซียในยูเครน มาตรการคว่ำบาตรใหม่จะทอนกำลังทางเศรษฐกิจรัสเซียให้อ่อนลงเพื่อโดดเดี่ยวรัสเซียทางการเมือง เนื้อหาที่เป็นรูปธรรมของการคว่ำบาตรจะประกาศวันที่ 12 กันยายนนี้ ประธานาธิบดีโอบามาระบุ มาตรการคว่ำบาตรใหม่เจาะจงต่อพฤติกรรมของรัสเซียที่ทำลายความมั่นคงของยูเครน โดยเฉพาะพฤติกรรมของรัสเซียที่จัดวางกองทหารรัสเซียในเขตภาคตะวันออกของยูเครน ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า ตั้งแต่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ยูเครนบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในมินสก์เป็นต้นมา สหรัฐฯ ยังไม่เห็นหลักฐานแน่ชัดที่บ่งบอกว่ารัสเซียหยุดพฤติกรรมทำลายความมั่นคงของยูเครนแล้ว

(In/zheng)