เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:คนจีนร้อยละ30 พูดจีนกลางไม่ได้
  2014-10-15 18:32:46  cri

ความกว้างใหญ่ของผืนแผ่นดิน และความหลากหลายทางชนชาติกับจำนวนประชากรที่มากกว่า 1,300 ล้านคน ทำให้ "ภาษาจีนกลาง" กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร เชื่อมโยงความต่าง ประสานความเข้าใจของผู้คนในแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศจีนเข้าไว้ด้วยกัน

นับตั้งแต่ปี 1998 รัฐบาลจีนได้กำหนดให้ทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน เป็นสัปดาห์แห่งการรณรงค์ใช้ภาษาจีนกลางทั่วประเทศ และได้ถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาโดยตลอด สำหรับปีนี้ รายงานผลสำรวจแสดงว่า มีประชากรจีนร้อยละ30 หรือประมาณ 400 ล้านคน พูดสื่อสารด้วยจีนกลางไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวชนบทที่อยู่ห่างไกล ชนชาติส่วนน้อย โดยจะเป็นรุ่นผู้เฒ่าผู้แก่ที่อายุมากแล้วเป็นสำคัญ และในจำนวนร้อยละ 70 ที่พูดได้ก็มีเพียงร้อยละ 10 ที่สามารถใช้ภาษาจีนกลางพูดสื่อสารได้อย่างราบรื่นดี ดังนั้น งานเผยแพร่รณรงค์การใช้ภาษาจีนกลาง จึงยังคงเป็นภาระหน้าที่ที่หนักหนาเอาการ

 

โทรทัศน์ – "ภาษาเซี่ยงไฮ้" "ภาษาตงเป่ย (ตะวันออกเฉียงใต้)" "ภาษากวางตุ้ง"

ผู้ชม - (มึน...พูดอะไรมา ฟังไม่เข้าใจสักกะประโยค)

ทั้งนี้ เกณฑ์ชี้วัดว่ามีความสามารถในการใช้ภาษาจีนติดต่อสื่อสารหรือไม่นั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องพูดสำเนียงชัดเจนได้มาตรฐานอย่างผู้ประกาศข่าว แต่ยึดการบรรลุเป้าหมายในการสื่อสารเป็นเกณฑ์สำคัญ คือ แม้ผู้พูดจะมีสำเนียงท้องถิ่นหนักไปบ้าง แต่หากการสื่อความอธิบายให้ฝ่ายรับสารเข้าใจได้กว่าร้อยละ 85 ก็ถือว่าบรรลุความเข้าใจกันได้แล้ว และจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มพลเมืองร้อยละ 70 ที่พูดจีนกลางได้นั่นเอง

นายเหยาสี่ซวง หัวหน้ากรมการใช้ภาษา กระทรวงศึกษาธิการจีนกล่าวว่า การรณรงค์ใช้ภาษาจีนกลางไม่ได้หมายถึง จะทำลายความสำคัญของภาษาจีนท้องถิ่น หรือภาษาของชนเผ่าต่างๆ เพราะไม่ว่าจะภาษาหรือตัวอักษรใดก็สามารถดำรงอยู่ร่วมกันได้ด้วยดี แต่การที่ผลักดันให้ใช้ภาษาจีนกลางก็เพื่อให้สังคมมีความเข้าใจกัน หากคนแต่ถิ่นไม่รู้ภาษาจีนกลาง นอกจากจะสื่อสารพูดคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว ยังทำให้สารที่ต้องการสื่อเกิดความคลาดเคลื่อน กลายเป็นเรื่องตลก และอาจรุนแรงเป็นปัญหาใหญ่โตเนื่องจากความเข้าใจผิดกันได้ ดังนั้น ขณะเดียวกับที่พยายามส่งเสริมการใช้ภาษาจีนกลางนั้น ก็จะอนุรักษ์ภาษาถิ่นภาษาชนเผ่าให้คงอยู่ต่อไปด้วย

สำหรับประเด็นที่ว่าควรให้เด็กเรียนภาษาท้องถิ่นหรือจีนกลางก่อนกันนั้น ชาวเน็ตส่วนหนึ่งแสดงความเห็นว่า ควรเรียนภาษาท้องถิ่นก่อน เพราะพอโตเข้าโรงเรียนแล้วก็จะมีครูสอน ทำให้พูดและรู้จีนกลางได้เองโดยธรรมชาติ อีกส่วนหนึ่งเห็นว่า ควรเรียนจีนกลางก่อน เพราะภาษาถิ่นได้ยินได้ฟังอยู่ตลอดก็เป็นเองไม่ยากเช่นกัน และมีอีกไม่น้อยเห็นว่าไม่ว่าจะจีนกลางหรือภาษาถิ่น เด็กสามารถเรียนรู้ไปพร้อมกันได้แน่นอน

อาทิ พ่อแม่พูดจีนกลางกับลูก ส่วนปู่ย่าพูดภาษาถิ่นกับหลานเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในครอบครัวจีน ทำให้เด็กพัฒนาความสามารถด้านทักษะภาษาได้ด้วย นอกจากนี้ ภาษาถิ่นยังถือเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมอีกรูปแบบหนึ่ง หากลูกหลานพูดได้แต่จีนกลาง ภาษาถิ่นนับวันจะมีคนพูดได้น้อยลง จนต้องสูญหายไปก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

ลิงค์เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:เรื่องขำขำกับความสำคัญของภาษาจีนกลาง

https://thai.cri.cn/247/2012/06/26/225s199488.htm

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040