วันที่ 17 ตุลาคมนี้เป็นวันช่วยเหลือผู้ยากจนครั้งแรกของจีน วันที่ 14 ตุลาคมนี้ นายเจิ้ง เหวินข่าย รองผู้อำนวยการสำนักงานการช่วยเหลือผู้ยากจนคณะรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ปัญหายากจนของจีนยังมีความร้ายแรงอย่างยิ่ง ตามมาตรฐานของจีน ถึงปลายปี 2013 ยังมีผู้ยากจนกว่า 82 ล้านคน หากคำนวนตามมาตรฐานสากล ยังมีผู้ยากจนกว่า 200 ล้านคน

ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่สองในโลก แต่ยังมีปัญหายากจนอย่างร้ายแรง วันที่ 14 ตุลาคมนี้ ในการแถลงข่าวของสำนักงานการช่วยเหลือผู้ยากจนคณะรัฐมนตรีจีน นายเจิ้ง เหวินข่ายชี้แจงว่า ในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา จีนมีประชากรพ้นจากความยากจนจำนวนกว่า 600 ล้านคน แต่สภาพความยากจนของจีนยังร้ายแรงอยู่

เขากล่าวว่า ประการแรก จีนยังมีผู้ยากจนจำนวนมาก ซึ่งมากกว่า 82ล้านคน ประการที่ 2 ผู้ยากจนของจีนในปัจจุบันไม่เพียงแต่มีรายได้น้อย หากยังเผชิญกับความยากลำบากต่างๆอีกมากมายรวมถึงด้านอาหาร การเดินทาง การใช้ไฟฟ้า การศึกษา การรักษาโรค และการกู้เงิน เป็นต้น ประการที่สาม จีนยังมีภารกิจหนักหน่วงในการขจัดความยากจน เนื่องจากผู้ยากจนของจีนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตที่ยากจนมาก ซึ่งมีเงื่อนไขเลวร้ายในการดำรงชีวิต เกิดภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง และมีสาธารณูปโภคล้าหลัง

จีนกำหนดวันที่ 17 ตุลาคมนี้เป็นวันช่วยเหลือผู้ยากจนครั้งแรก โดยหวังว่าผู้คนจะให้ความสนใจแก่ปัญหาความยากจนมากยิ่งขึ้น ตามเป้าหมายที่รัฐบาลจีนเสนอขึ้นในรายงานการปฏิบัติงาน ปีนี้จีนจะลดประชากรยากจนในชนบทอีก 10 ล้านคน จีนกำลังวางแผนจัดตั้งกลไกปฏิบัติงานการช่วยเหลือผู้ยากจนที่สมบูรณ์ยิ่ง โดยตั้งระบบเครือข่ายข้อมูลการช่วยเหลือผู้ยากจนทั่วประเทศ และให้ความช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิผลที่แท้จริง นายเจิ้ง เหวินข่ายกล่าวว่า ก่อนอื่น ต้องเร่งการพัฒนากิจการจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างใกล้ชิด รวมถึงด้านพลังงานใหม่ เช่น พลังแสงอาทิตย์ และต้องผลักดันธุรกิจอีคอมเมิร์ชในเขตชนบท เป็นต้น เพื่อพัฒนากิจการต่างๆในเขตยากจนให้คืบหน้าไป