วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปได้ปรึกษาหารือปัญหายูเครน และประกาศแถลงการณ์เรียกร้องฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามข้อตกลงมินสค์(Minsk) พร้อมย้ำให้รัสเซียรับผิดชอบในด้านนี้ แต่ที่ประชุมไม่ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียประการใหม่
ตั้งแต่กองกำลังติดอาวุธภาคเอกชนของรัฐดอนเนสค์(Donnetsk)และลูฮันสค์ ออบลาสต์(Luhansk Oblast) ทางภาคตะวันออกของยูเครนจัดการเลือกตั้งในเขตควบคุมเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นมา สถานการณ์ยูเครนตึงเครียดอีกครั้ง ประธานาธิบดีโบโรเซนโค ของยูเครนได้ยกเลิก "กฎหมายฐานพิเศษ" ที่ให้สิทธิปกครองตนเองบางส่วนแก่สองรัฐดังกล่าว และเรียกร้องให้องค์กรรัฐบาลถอนตัวออกจากเขตเหล่านี้ โดยระยะหลังๆ นี้ พื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนได้เกิดเหตุยิงปืนใหญ่อย่างดุเดือด และเกิดการปะทะด้วย องค์การความมั่นคงและความร่วมมือของยุโรปรายงานว่า มีอาวุธหนักจำนวนมาก และขบวนรถถังเข้าสู่เขตดังกล่าว ดังนั้น ในที่ประชุมกลุ่มจี 20 ที่เพิ่งสิ้นสุดลงนั้น ผู้นำสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก เช่น อังกฤษ และเยอรมนีต่างเห็นว่า หากรัสเซียสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธเอกชนในภาคตะวันออกต่อไป สหภาพยุโรปจะขยายขอบเขตการคว่ำบาตรรัสเซีย
ที่ประชุมประกาศแถลงการณ์ว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปเรียกร้องให้ฝ่ายปฏิบัติการต่างประเทศของยุโรปและคณะกรรมการสหภาพยุโรปยื่นรายชื่อของผู้แบ่งแยก เพื่อจัดเข้าสู่รายชื่อการคว่ำบาตร ขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ยูเครนและรัสเซียประมาณ 120 คนถูกจัดเข้าสู่รายชื่อฉบับนี้แล้ว โดยสินทรัพย์ส่วนตัวของพวกเขาถูกอายัด และถูกจำกัดการออกเดินทาง
แถลงการณ์ย้ำว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศฯ สนับสนุนพิธีสารที่ลงนามกันโดยหน่วยประสานงาน 3 ฝ่ายเกี่ยวกับปัญหายูเครน รวมถึงยูเครน องค์การความมั่นคงและความร่วมมือยุโรปและรัสเซีย กับกองกำลังติดอาวุธภาคเอกชนทางภาคตะวันออกของยูเครน ณ กรุงมินสค์ ของเบลารุส และเรียกร้องฝ่ายต่างๆ ปฏิบัติตามพิธีสารอย่างรอบด้านโดยเร็ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ "เคารพการหยุดยิง ถอนกองกำลังติดอาวุธที่ผิดกฎหมายและประกันความมั่นคงในชายแดนระหว่างรัสเซียกับยูเครน"
Toon/Lr